จากที่ผู้บัญชาการเหล่าทัพได้เข้าปฏิบัติหน้าที่ พร้อมถวายสัตย์ปฏิญาณ ท่ามกลางการจับตาการทำงานร่วมกับรัฐบาล ขณะการเมืองก็เข้าสู่จัดเปลี่ยนแปลง การแบ่งงานของ 5 เสือทบ. และการจัดวางขุมกำลังจึงเป็นที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง!!!
ทั้งนี้การจัดวางขุมกำลังการแบ่งงานภายในกองทัพบก ถูกเผยแพร่ออกมาเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ลงนามคำสั่งกองทัพบก เรื่อง การปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.), เสนาธิการทหารบก ( เสธ.ทบ.) และ รอง เสธ.ทบ.
โดยให้ พล.อ.วสุ เจียมสุข ผช.ผบ.ทบ.(1) รับผิดชอบสายงานกำลังพล , พล.อ.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง ผช.ผบ.ทบ. (2) รับผิดชอบสายงานการส่งกำลังบำรุง , พล.อ.ธงชัย รอดย้อย เสธ.ทบ. รับผิดชอบงานสายงานการข่าวและกิจการต่างประเทศ สายงานยุทธการ การฝึกและศึกษา ทางทหาร สายงานกิจการพลเรือน และสายงานปลัดบัญชี
พล.อ.ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล รองเสธ.ทบ.(1) รับผิดชอบสายงานกำลังพล , พล.ท.นุกูล โล่ห์ประเสริฐ รอง เสธ.ทบ.(2) รับผิดชอบงานสายงานการข่าวและกิจการต่างประเทศ , พล.ท.เกรียงไกร ปราสาฑสุวรรณ รอง เสธ.ทบ.(3) รับผิดชอบสายงานยุทธการ พล.ท.บรรยง ทองน่วม รอง เสธ.ทบ.(4) รับผิดชอบสายงานส่งกำลังบำรุง , พล.ท.อานุภาพ ศิริมณฑล รองเสธ.ทบ.(5) รับผิดชอบสายงานกิจการพลเรือน
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ยังได้กล่าวแสดงความยินดีแก่นายทหารสัญญาบัตรชั้นนายพลที่ได้รับพระราชทานยศสูงขึ้น มีใจความสำคัญบางช่วงว่า
“การที่กองทัพบก สามารถยืนหยัดด้วยเกียรติ ศักดิ์ศรี และได้รับการยอมรับเป็นสถาบันที่เป็นรากฐานด้านความมั่นคงของชาติตลอดมานั้น ทุกท่านมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ได้ปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยยึดมั่นอุดมการณ์ในการสร้างสรรค์คุณประโยชน์ให้กับส่วนรวมและประเทศชาติ
การได้รับพระราชทานยศสูงขึ้นนั้นมาพร้อมกับภาระหน้าที่และความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นเป็นสิ่งย้ำเตือนให้ทุกท่านตระหนักในหน้าที่ต่อชาติบ้านเมือง พร้อมปรับตัวและพัฒนาตนเองอย่างรอบด้านให้สามารถรองรับภารกิจภายใต้สถานการณ์และสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
ในขณะเดียวกันจะต้องประพฤติปฏิบัติตนให้สมเกียรติในการเป็นทหาร เป็นผู้นำ และเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้ใต้บังคับบัญชา ยึดหลักธรรมาภิบาลในการปกครอง พร้อมเสริมสร้างขีดความสามารถของหน่วยและกองทัพบก มีพลังกาย พลังใจ พิทักษ์ปกป้องราชบัลลังก์ คุ้มครองประชาชน พัฒนากองทัพและประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าและมั่นคงสงบสุขตลอดไป”
ขณะที่วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหารชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ภาพพร้อมข้อความลงในเฟซบุ๊ก Wassana Nanuam ในวันเดียวกันด้วยว่า
“บิ๊กใหญ่ นำไป 1 ก้าว ขึ้น แม่ทัพภาค1 ก่อน แม่ทัพไก่ เพิ่งขึ้น แม่ทัพน้อย 1 เพิ่งติดยศพลโท แต่ อาจไปทันกัน ใน5 เสือทบ. คนหนึ่ง ตท.27 อีกคน ตท.28 เกษียณ 2571 พร้อมกัน จึงจะมีแค่คนใดคนหนึ่ง ที่จะได้เป็น ผบ.ทบ. หรือ อาจโดนเบียด ทั้งคู่ อนาคต ไม่มีอะไรแน่นอน
แม่ทัพใหญ่ พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 (ตท.27) ในฐานะอดีตแม่ทัพน้อยที่ 1 ส่งมอบหน้าที่ ให้ แม่ทัพไก่ พลโท วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพน้อยที่ 1 (ตท.28)”
อย่างไรก็ตามจึงเป็นที่จับตามองกันว่าการแบ่งงาน และจัดทัพของผบ.ทบ.มีความสำคัญ ส่องนัยยะอย่างไรต่ออนาคตท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่วาสนา นาน่วม ได้โพสต์ไว้ถึงกระแสข่าวการไม่ต้องควบ ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 ของ ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งที่ผ่านมาจะนั่งควบตำแหน่งดังกล่าวไปด้วย ซึ่งกระแสข่าวดังกล่าว ว่ากันว่า อาจเป็นการแยกส่วน จัดวางขุนพล ทบ.กับฉก.
กระนั้นที่ทีมข่าว THE critics ได้เคยนำเสนอไว้ถึง แม่ทัพใหญ่ พลโท อมฤต และ ผู้ช่วยผบ.ทบ.อย่างพล.อ.วสุ ว่าทั้งคู่ต่างเป็นน้องรัก คนสนิทบิ๊กตู่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาทั้งสิ้น โดยเฉพาะ แม่ทัพใหญ่ ที่เดินตามไลน์สู่เก้าอี้ ผบ.ทบ.หากในอนาคตจะได้นั่งตำแหน่งสูงสุดในกองทัพ ก็ไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายนัก
ขณะที่กระแสข่าวการแยกขุนพล ทบ.กับ ฉก.นั่นคือ หน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 ก็นับว่าน่าสนใจหากกระแสข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องจริง เพราะนั่นถูกมองว่าจะทำให้ผบ.ทบ.มีอิสระ ความคล่องตัวมากขึ้น หากจะขยับอะไรในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ก็จะถูกตัดขาดออกไปว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดกับหน่วย ฉก.นั่นเอง ซึ่งในความเป็นจริงก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆอยู่แล้ว
#บิ๊กปู #ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 #5เสือทบ. #บิ๊กตู่ #แม่ทัพใหญ่ #ผบ.ทบ. #พลโทอมฤต #มทภ.1 #พล.อ.วสุ