จากที่สถานการณ์ทางการเมืองดูเหมือนว่าใกล้เข้าสู่ความพลิกผัน หรือเปลี่ยนแปลงซึ่งคาดหมายกันว่าจะนำพาไปสู่ การเปลี่ยนรัฐบาลหรือไม่ เมื่อแกนนำมวลชนคนสำคัญทั้งสนธิพันธมิตร และจตุพรนปช.ออกมาส่งสัญญาณขับไล่นางสาวแพทองธาร
ทั้งนี้ภายหลังจากนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรฯออกมาประกาศเดินครั้งสุดท้ายเพื่อขจัดภัยประเทศจากรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ล่าสุดวันนี้เฟซบุ๊ก Jatuporn Prompan – จตุพร พรหมพันธุ์ ออกมาโพสต์คลิปรยการพร้อมเนื้อหา โดยระบุว่า
เมื่อ 1 ตุลาคม 2567 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ ย้ำว่า สถานการณ์หักล้างกันทางการเมืองจะทวีรุนแรงขึ้น โดยทุกอย่างยังดำรงเป้าหมายไว้เหมือนเดิม การเมืองจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกไม่นาน ส่วนกรณีทักษิณ ชินวัตร จะจบลงในพฤศจิกายนนี้ และเสียงนิยมที่เพิ่มขึ้นของนายกฯ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ก็ช่วยไม่ได้ เพราะการแจกเงินสดไม่ได้ช่วยให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจถึง 4-5 รอบตามที่เคยคุยโวโอ้อวดเอาไว้
“ถัดจากนี้ไป การเมืองจะยิ่งใกล้ถึงวันสุกดิบเข้าทุกขณะ อีกทั้งการหักล้างกันจะแรงขึ้น ซึ่งไม่แน่ใจว่า ต้นปีหน้าระหว่างไตรมาสแรกนั้นจะมีรัฐบาลให้นายสนธิ ลิ้มทองกุล นัดพามวลชนเดินถนนขับไล่หรือไม่ ท่าทีการเคลื่อนไหวเช่นนี้นับเป็นคุณประโยชน์ของพลังฝ่ายประชาชนอย่างยิ่ง
คะแนนนิยมของนายกฯ อุ๊งอิ๊ง พุ่งขึ้นเป็นที่หนึ่งทิ้งห่างความนิยมของหัวหน้าพรรคการเมืองอื่นๆโดยเชื่อเป็นอานิสงส์จากการแจกเงินสดหมื่นบาทให้กลุ่มเปราะบาง ซึ่งเลียนแบบการแจกเงินของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีนายกฯ การเมือง ความนิยมจะตื่นเต้นอยู่ไม่ได้นาน
อีกอย่างความนิยมที่พุ่งขึ้นนั้น ไม่เกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตตามที่พรรคเพื่อไทยและนายกฯ ประกาศหาเสียงไว้ เพราะการแจกเงินสดรอบแรกเป็นไปตามการหว่านเงินแบบอนาล็อก ไม่มีความซับซ้อนที่เป็นเครื่องมือเพื่อบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชน และไม่ใช่พายุหมุนดิจิทัลที่คุยอวดอ้างกันไว้” นายจตุพร กล่าว
นอกจากนี้ นายจตุพร ยังกล่าวว่านักการเมือง คิดแต่เรื่องคะแนนเสียง โดยไม่คิดถึงความเสียหายของประเทศและความยั่งยืนของประชาชน ที่สำคัญความเดือดร้อนของประชาชนจะต้องได้รับการแก้ไข ไม่ใช่มาแก้แบบระยะสั้นๆ แบบนี้ ซึ่งจะจบลงไม่แตกต่างจากนายกฯ เคยทำโครงการซอฟต์พาวเวอใช้งบ 5 พันล้าน แต่ไม่ปรากฏผลงานอะไรออกมา
“การเมืองถัดจากนี้ไปนายกฯจะถูกร้องเรียนกรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ฉบับของจริงที่มีรายละเอียดครบถ้วน โดยมีปลายทางอยู่ที่การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ดังนั้นนายกฯอาจขยับไม่ออกได้ง่ายๆเลย เพราะตามข้อมูลเป็นการกระทำความผิดสำเร็จแล้ว และเป็นใบเสร็จที่ชัดเจนยิ่งกว่านายเศรษฐา ทวีสิน ถูกให้พ้นจากนายกฯ กรณีจริยธรรมเสียด้วยซ้ำ แล้วนายกฯอุ๊งอิ๊งจะรอดข้อหาจริยธรรมการไปครอบครองที่ดินธรณีสงฆ์ได้อย่างไรกัน” นายจตุพร กล่าว
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 ช่องยูทูบที่ใช้ชื่อว่า Sondhitalk ได้โพสต์วิดีโอความยาว 4.53 นาที ชื่อ ‘3 เงื่อนไขของสนธิ ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเวทีงาน ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 3 ที่ สนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศว่า ในต้นปีหน้าจะทำ 3 เรื่อง
“โดยภายในประมาณไตรมาสแรกของปีหน้า หากรัฐบาลทำอะไรที่ไม่เข้าที่เข้าทางหรือผิดจริยธรรม จะรวบรวมมวลชนออกมาขับไล่รัฐบาล เพราะไม่ควรจะอยู่ต่อไป” นายสนธิ กล่าว
#นายกรัฐมนตรี #อุ๊งอิ๊ง #คดีอัลไพน์ #ทักษิณ #พฤศจิกา #รัฐบาล #สนธิ #ธรณีสงฆ์ #ผิดจริยธรรม #ศาลรัฐธรรมนูญ #เศรษฐา
