เปิดคำให้การ“รพ.ตร.-ราชทัณฑ์”โยนผิดกันอุตลุด งามไส้! ให้ผตข.อยู่ต่ออำนาจกรมคุก อีกฝ่ายแฉดุลยพินิจแพทย์สั่งจำหน่าย

0

จากที่กำลังถูกพูดถึงกันเป็นอย่างมากกับรายงานฉบับเต็มของกสม.ที่ออกมารุกไล่หน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบการเอื้อประโยชน์นายทักษิณ ซึ่งข้อมูลที่เผยแพร่ออกมาปรากฏว่า2หน่วยงานโยนกันไปมา ซึ่งเพราะกลัวความผิดหรือไม่???

ทั้งนี้ตามรายงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน หรือ กสม. เปิดเผยถึงผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน เรื่อง การเลือกปฏิบัติและสิทธิของผู้ต้องขัง กรณีร้องเรียนว่า นายทักษิณ ชินวัตร ได้รับสิทธิรักษาพยาบาลดีกว่าผู้ต้องขังรายอื่น กรณีผู้ร้อง (ปกปิดชื่อ) ผู้ถูกร้องที่ 1 เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลตำรวจ ผู้ถูกร้องที่ 2

โดยรายงานดังกล่าวได้สรุปผลการตรวจสอบเมื่อ 20 กรกฎาคม 2567 ซึ่งทีมข่าว THE critics ได้นำเสนอบางส่วนไปแล้ว อย่างมีนัยยะสำคัญ ล่าสุดวันนี้ 20 กันยายน 2567 THE critics ได้พบข้อมูลที่เชื่อแน่ว่าสังคมคงให้ความสนใจ ซึ่งความผิดเกิดขึ้นชัดแจ้งทำให้สองหน่วยต่างโยนกันไปมา โดยมีเนื้อหาสรุปช่วงสำคัญดังนี้

ข้อเท็จจริงจากผู้ถูกร้อง-ผู้ถูกร้องที่ ๑ (เรือนจำพิเศษกรุงเทพ) ชี้แจง แพทย์เห็นว่า เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อชีวิต เห็นควรส่งตัวนายทักษิณไปยังผู้ถูกร้องที่ ๒ ซึ่งมีความพร้อมและมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพสูงกว่าทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ พัศดีเวรจึงได้อนุมัติให้ส่งตัวนายทักษิณไปรักษากับผู้ถูกร้องที่ ๒

ผู้ถูกร้องที่ ๒ (รพ.ตำรวจ) ชี้แจงดังนี้ มีหน้าที่รักษา กำหนดแนวทางการรักษา และรายงานอาการของผู้ป่วยตามความเป็นจริง ส่วนการรักษาความปลอดภัย และการเข้าเยี่ยมของญาติผู้ต้องขังเป็นหน้าที่และอำนาจของกรมราชทัณฑ์

การกำหนดห้องพักรักษาตัวขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยแต่ละราย และความพร้อมของห้องเป็นสำคัญ อีกทั้งยังต้องได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานที่ควบคุมตัวด้วย หากเห็นว่าไม่ถูกต้องเหมาะสม สามารถโต้แย้งได้ รวมถึงการให้ผู้ต้องขังรักษาต่อหรือย้ายออกก็เป็นอำนาจของกรมราชทัณฑ์เช่นเดียวกัน

ห้องที่นายทักษิณรักษาตัวถือเป็นห้องพิเศษระดับปกติ ไม่ใช่ห้องใหญ่หรือมีอัตราค่าห้องที่แพงที่สุด ทั้งนี้ หากกรมราชทัณฑ์เห็นว่าห้องดังกล่าวไม่เหมาะสามารถแจ้งให้ผู้ถูกร้องที่ ๒ ย้ายนายทักษิณไปพักรักษาที่ห้องอื่นได้

การจะให้ออกจากโรงพยาบาลขึ้นอยู่กับกรมราชทัณฑ์ว่าสามารถดูแลรักษาต่อได้หรือไม่ เพราะผู้ถูกร้องที่ ๒ มีหน้าที่เพียงให้ความเห็นทางการแพทย์ตามวิชาชีพและระบุอาการป่วยตามความเป็นจริงให้กรมราชทัณฑ์ทราบและพิจารณาเท่านั้น

ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ชี้แจง จากประวัตินายทักษิณมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะวิกฤติทางหัวใจและระบบทางเดินหายใจ เมื่อพิจารณาถึงความจำเป็นและศักยภาพของโรงพยาบาลแล้ว จึงแนะนำให้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น แม้สถาบันโรคทรวงอกจะตั้งอยู่ใกล้ผู้ถูกร้องที่ ๑ แต่จากอาการในภาพรวม ผู้ถูกร้องที่ ๒ น่าจะมีความพร้อมมากกว่า เพราะมีแพทย์หลายสาขา รวมถึงมีบันทึกข้อตกลงกับกรมราชทัณฑ์

กรมราชทัณฑ์ ชี้แจง ผู้บัญชาการเรือนจำ อนุญาตให้ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ เมื่อนำตัวผู้ต้องขังออกไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลนอกเรือนจำ หากโรงพยาบาลนั้นจัดให้พักรักษาตัวในห้องที่มีการควบคุมพิเศษแตกต่างจากผู้ป่วยรายอื่น ย่อมอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายที่เป็นข้อยกเว้นให้สามารถกระทำได้ โดยไม่ได้กำหนดให้เรือนจำต้องรายงานให้กรมราชทัณฑ์ทราบ

กรณีผู้ต้องขังเป็นผู้ป่วยในที่โรงพยาบาลภายนอกเรือนจำ เมื่อการรักษาสิ้นสุดหรืออาการทุเลา แพทย์ผู้รักษาจะพิจารณาจำหน่ายผู้ต้องขังป่วยกลับเข้าเรือนจำ หรือ ไปพักรักษาต่อที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์

หลังจากที่นายทักษิณพักรักษาตัวกับผู้ถูกร้องที่ ๒ ครบ ๑๒๐ วัน ผู้ถูกร้องที่ ๑ ได้รายงานขอความเห็นชอบจากกรมราชทัณฑ์แล้วโดยไม่ได้รายงานการรักษามายังกรมราชทัณฑ์อีก จนได้รับการปล่อยตัวพักโทษไปเมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

 

#รพ.ตร. #กรมราชทัณฑ์ #ผตข. #ทักษิณ #ติดคุก #แพทย์ใหญ่ #ทวี #โรงพยาบาลราชทัณฑ์ #กสม. #เรือนจำพิเศษกรุงเทพ