จากที่สถานการณ์ทางการเมืองดูเหมือนว่ากำลังพลิกผัน เกิดความเปลี่ยนแปลงชนิดที่ใครก็ไม่คาดคิดกันมาก่อน นั่นก็คือประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย ท่ามกลางเสียงคัดค้าน และคำถามอย่างมากมาย อะไรคือจุดเปลี่ยนในเรื่องนี้???
ขณะที่การจับมือร่วมตั้งรัฐบาลดำเนินไปก็มีเสียงเรียกร้องจากคนเสื้อแดงในการดำเนินคดีเหตุการณ์ชุมนุมซึ่งประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลในขณะนั้น
ล่าสุดวันที่ 16 กันยายน 2567 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง อดีตผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าคดี 99 ศพคนเสื้อแดง ผ่านทางแฟนเพจ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ซึ่งมีเนื้อหาบางส่วนระบุว่า
“จากการใช้เวลาตามคดีพี่น้องที่เสียชีวิต ในเหตุสลายการชุมนุมปี 2553 ต้องพูดคุยกับหลายหน่วยงาน และผลักดันให้แต่ละหน่วยงานเชื่อมต่อข้อมูลกัน เพราะเรื่องถูกซุกไว้ใต้พรม ไม่มีการไต่สวนสาเหตุการตายโดยศาลมาตลอด 10 ปี ซึ่งโดยส่วนตัวผมเชื่อว่าคดีนี้น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งของการรัฐประหาร 2557
บ่ายวันนี้ ผมได้รับแจ้งความคืบหน้า หลังมีการประสานงานกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อมูลโดยสรุป ดังนี้
16 เมษายน 2553 มีมติคณะกรรมการคดีพิเศษ 3/2553 ให้การกระทำผิดทางอาญา กรณีก่อการร้าย การขู่บังคับให้รัฐบาลกระทำการใดๆ การทำร้ายประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ และกระทำต่ออาวุธยุทธภัณฑ์ของทางราชการอันเกี่ยวกับการชุมนุมที่มิชอบด้วยกฎหมายในช่วงปลายปี พ.ศ.2552 เป็นต้นไปในราชอาณาจักร รวมถึงความผิดที่ต่อเนื่องหรือเกี่ยวพันกัน เป็นคดีพิเศษ
กรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนในกรณีดังกล่าวไว้แล้ว โดยได้ตรวจสอบ
1.รายการสำนวนการสอบสวน มีการไต่สวนในชั้นศาล จำนวน 31 ศพ โดยศาลมีคำสั่งว่าวิถีกระสุนมาจากฝั่งทหาร หรือแนวทหาร รวม 17 ศพ และศาลไต่สวนมีคำสั่งว่า ยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ลงมือกระทำ รวม 14 ศพ
2.รายการสำนวนการสอบสวน พบยอด ชันสูตร 68 ศพ โดยพบว่า ทุกสำนวนมีการชันสูตรพลิกศพ ตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว แต่จากการตรวจสอบ ได้มีการชันสูตรพลิกศพโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ที่พบศพ ร่วมกับแพทย์นิติเวชทุกราย แต่ไม่ได้มีการดำเนินการไต่สวนการตาย ในชั้นศาล
เนื่องจากการสอบสวนไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าการตายเกิดจากการกระทำของเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติการตามหน้าที่ เจ้าพนักงานตำรวจท้องที่ที่พบศพจึงไม่ได้ชันสูตร 4 ฝ่าย (พงส., อัยการ, ฝ่ายปกครองและแพทย์ผู้ชันสูตรพลิกศพ) เพื่อส่งศาลไต่สวนการตาย ตาม ป.วิอาญามาตรา 150 วรรคสาม
พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และสรุปสำนวนเสนอพนักงานอัยการเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
โดยพนักงานอัยการ ได้มีคำสั่งไม่ฟ้องหรืองดการสอบสวน พร้อมได้ส่งสำนวนการสอบสวน กลับมาที่คณะพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีภายในอายุความ
ผมมีคำถามในใจหลายประเด็นจะใช้ข้อมูลนี้เป็นสารตั้งต้นใช้ตรวจสอบความถูกต้อง กับข้อมูลที่ฝ่ายประชาชนมีอยู่ และหารือฝ่ายกฎหมาย รวมถึงญาติผู้เสียชีวิต ขับเคลื่อนการติดตามความยุติธรรมต่อไป”
ถัดมาวันที่ 17 กันยายน 2567 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความตอบโต้แกนนำคนเสื้อแดง โดยระบุหัวข้อ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ล้างมือให้หายสกปรกเสียก่อนเถอะ
ผมอ่านข่าว ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เตรียมการรื้อฟื้นการเสียชีวิตของคนเสื้อแดง 99 ศพ ในการชุมนุมเมื่อปี 2553 โดยที่คดีนี้จบไปแล้วโดยพนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ใดเป็นจำเลย
มีหลักในการขอความยุติธรรมจากศาลว่า บุคคลผู้มาขอความยุติธรรมจากศาลต้องมาด้วยมือที่สะอาด(He who comes to the court must come with clean hands)
ในการชุมนุมครั้งนั้น ผู้ชุมนุมมีอาวุธจึงทำให้ ประชาชน,ทหาร,ตำรวจ เสียชีวิตเยอะ พลเอกร่มเกล้า ธุวธรรม ก็เสียชีวิตจากระเบิดของผู้ชุมนุมอีกฝั่งหนึ่ง
ไหนๆ จะรื้อฟื้นกันแล้ว ก็บอกนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทย,บอกคุณทักษิณ ชินวัตร ให้ยุติความคิดในการเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมเสียเลยครับ ผมเชียร์เลย
ในการชุมนุม ณัฐวุฒิ กล่าวว่า เผาเลยครับพี่น้อง เผาเลย ผมรับผิดชอบเอง จากนั้นกรุงเทพมหานครก็กลายเป็นทะเลเพลิง จนศาลฎีกามีคำพิพากษาให้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จ่ายค่าเสียหาย จากการเผา 21,356,650 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2553 เป็นต้นไป
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จ่ายค่าเผาเสียก่อนเถอะ ถ้าไม่มีก็ขอให้คุณทักษิณ หรือ นายกรัฐมนตรีอุ๊งอิ๊ง จ่ายค่าเผาบ้านเผาเมืองให้ก่อน แล้วค่อยมาขอความเป็นธรรมจากศาลดีไหม ล้างมือจากการเผาบ้าน-เผาเมือง ให้หายสกปรกเสียก่อนเถอะณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แล้วค่อยมาขอความยุติธรรมจากศาล
ก็เพราะอย่างนี้ไง ที่ผมเคยบอกว่า ผมไม่ไว้วางใจเครือข่ายทักษิณ ชินวัตร
ก็เพราะอย่างนี้ไง!! ที่ผมเคยบอกว่า ต้องมีพรรคประชาธิปัตย์ของแท้ ไว้คานอำนาจ แต่เมื่อคนพรรคประชาธิปัตย์ ลอกคราบ เปลี่ยนอุดมการณ์ไปแล้วจะพึ่งใครล่ะ?
วันนี้ แม้อาจไม่มีคนคานอำนาจเครือข่ายทักษิณ ชินวัตร แล้ว อาจเหลือผม กับ บุรุษนามชวน หลีกภัย เพียงสองคน ผมก็จะเขียนเรื่องนี้ต่อไป เพื่อถ่วงดุลแห่งอำนาจ ไม่ต้องสวมรองเท้าผ้าใบหรอก ตีนเปล่านี่แหละ”
#คดีเสื้อแดงปี53 #ศาลฏีกา #คดีเผาอาคาร #ณัฐวุฒิ #นิพิฏฐ์ #ชวน #นิรโทษกรรม #ทักษิณ #อุ๊งอิ๊ง #พรรคประชาธิปัตย์