จากที่ไพบูลย์ มือกฎหมายพลังประชารัฐ คนสนิทลุงบ้านป่าฯเดินหน้าเอาผิดดนัย หรือ หมาแก่ ปล่อยคลิปเสียง ซึ่งว่ากันว่านี่คือการเปิดฉากเอาคืนของสองขั้วอำนาจ ซึ่งล่าสุดมีความเคลื่อนไหวต่อปฏิบัติการเช็คบิล โดยอดีตแกนนำมวลชนคนสำคัญ???
ทั้งนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ทำให้ต้องย้อนเรื่องราวไปไปเย็นวันที่ 13 กันยายน 2567 โดยอดีตแกนนำคนเสื้อแดงนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ได้เฟซบุ๊คไลฟ์ช่วงหนึ่งที่น่าสนใจว่า
“ในสัปดาห์ต่อไป อาจเกิดสถานการณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ บิ๊กป้อม หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เอาคืนด้วยการปล่อยคลิปชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ และ พรรคร่วมประชุมตั้งรัฐบาลที่บ้านจันทร์ส่องหล้า”
โดยอดีตแกนนำคนเสื้อแดง ได้ย้อนเหตุการณ์เปิดคลิปเสียงในช่วงชุมนุมประท้วงที่สนามหลวงว่า ตน, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจักภพ เพ็ญแข ถูกคดีดักฟังในกรณีเปิดคลิปเสียง และศาลอาญาตัดสินลงโทษ 2 ปี แต่รอลงอาญา ดังนั้น 5 คลิปหลุดที่ หมาแก่-ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ นำมาเผยแพร่ผ่านรายการ ย่อมมีความสุ่มเสี่ยงกับข้อหาดักฟัง นอกจากเชื่อมั่นบารมีของคนใหญ่คนโตที่หนุนหลังอยู่จึงกล้าเสี่ยง
“หมาแก่ (ดนัย) นำคลิปมาเปิดถ้าไม่คิดอะไรก็ถือว่าสุ่มเสี่ยงที่สุด หรือถ้าคิดอะไรแบ็คต้องใหญ่พอสมควร หรืออาจไม่เข้าใจว่า เคยมีกรณีในลักษณะอย่างนี้มาแล้ว ดังนั้น คดีนี้สุ่มเสี่ยงที่สุดกรณีเข้าข่ายข้อหาดักฟัง แล้วทำให้เชื่อจนเกิดความเสียหายของความเป็นคน” นายจตุพร กล่าว พร้อมคาดว่า วันนี้ บิ๊กป้อมไม่รู้จะกินข้าวกับใคร เพราะหวั่นกลัวถูกบันทึกเสียงพูดคุย
อย่างไรก็ตาม นายจตุพร วิเคราะห์การได้มาของ 5 คลิปหลุดว่า มีความน่าจะเป็นและเกิดขึ้นได้ 3 ลักษณะ คือ ใช้เทคโนโลยีดักฟัง หรือใช้มือถือบันทึกการพูดคุย และคนอายุมากมีปัญหาการได้ยินจึงเปิดลำโพงมือถือเสียงดักคุยกัน แล้วถูกคนแอบบันทึกเสียงซ้อนซ้ำอีกทางหนึ่ง
“ในสถานการณ์คลิปเสียงนั้น คาดว่า พล.อ.ประวิตร ต้องคิดอ่านตอบโต้เช่นกัน สิ่งสำคัญอาจนำคลิปเสียงบ้านจันทร์ส่องหล้า หรือชั้น 14 รพ.ตำรวจ ขยับขึ้นมาเปิดเกมเอาคืนอย่างมีนัยยะสำคัญก็ได้
เชื่อว่าสัปดาห์ต่อไปจะมีการขยับในเรื่องชั้น 14 ผมใบ้หวยชวนติดตามให้ก่อน ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่จะฉมังในแต่ละเรื่องราว ส่วนจะเป็นวันใดของสัปดาห์หน้าก็ไปดูกัน เพราะว่าหลังจากนี้ไปต้องเอาคืนดูเหมือนที่มากกว่านั้น รอบนี้ถ้าไม่ลงมือเลยคนก็หมดความเคารพนับถือ กลายเป็นคนกระจอกงอกง่อยโดยฉับพลัน”
นอกจากนี้ นายจตุพร ยังเชื่อว่า คนอย่าง พล.อ.ประวิตร สร้างบูรพาพยัคฆ์ขึ้นมาได้คงไม่ใช่คนแบบหมูๆที่จะให้ใครมาลูบคมได้ ดังนั้น เมื่อเลือดขึ้นหน้า คงต้องติดตามการเอาคืน รวมทั้งคาดว่า คลิปที่หมาแก่-ดนัย จะเปิดยังมีอีกมากเช่นกัน
“จากนี้ไปสถานการณ์การเมืองจะร้อนแรงขึ้น ทั้งที่คนสองบ้านนี้ต่างพึ่งพากันมาด้วยดีและยาวนาน เมื่อไม่เผาผีกัน ความรุนแรงย่อมตามมาด้วย อีกอย่างถ้า พล.อ.ประวิตร ยังเป็นเสืออยู่ ก็ต้องออกฤทธิ์ แต่เสือไม่แสดงอาการฟูมฟาย แม้เจ็บก็ต้องเลียแผลให้แห้ง แล้วมาปฏิบัติการเอาคืน
มุมมองของผมแบบนี้ ไม่ได้ยุยงอะไรใคร แต่คนเหมือนถูกลบเหลี่ยมแบบนี้ โดยการดักฟังแล้วเอามาเผยแพร่ มันยิ่งกว่าหยามเกียรติกันมากที่สุด โดยการดักฟังทางคดีหนักอยู่แล้ว ซึ่งทางราชการจะนำมาใช้ในการปฏิบัติภารกิจตรวจสอบเป็นเรื่องๆ ไป ถ้ามาดักฟังกระทั่งคุยกับผู้หญิงแล้ว ถือว่าหนักขึ้น และถ้าปล่อยให้ดักฟังเกิดขึ้น ประชาชนจะไม่ปลอดภัย” นายจตุพร กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายจตุพร ได้ย้ำทิ้งท้ายด้วยว่า กรณีคลิปหลุดของ พล.อ.ประวิตร อย่างมากแค่เสียคน และพังช้ากว่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่บ้านจันทร์ส่องหล้า และเรื่องชั้น 14 ซึ่งจะสร้างความฉิบหายให้เร็วกว่า และพังทั้งกระดานเลย
“อีกอย่าง หากผลตรวจสอบของแพทยสภาออกมาบรรจบกันด้วยแล้ว จะยิ่งเกิดความเสียหายรุนแรงรวดเร็วขึ้น โดยเชื่อว่า การอยู่กับคนโกหกซึ้งหน้าและถูกจับได้ แล้วยังอธิบายสิ่งที่เป็นเท็จให้เป็นความจริงแล้ว ย่อมอยู่ประเทศนี้ด้วยความยากลำบากยิ่งขึ้น ดังนั้น ความจริงต้องถูกเปิด และความจริงชั้น 14 ย่อมเป็นเรื่องใหญ่
บ้านป่ากับบ้านจันทร์ส่องหล้าสนิทกันมาก วันนี้ไม่เหลือเยื่อใยกันเลย ดังนั้น หากวันใดยังไม่มีความเด็ดขาด ยังอาลัยอาวรณ์กันอยู่ ย่อมเป็นกรณีศึกษา” นายจตุพร ระบุช่วงท้าย
#หมาแก่ #แกนนำเสื้อแดง #จำคุก #คดีดักฟัง #ลุงบ้านป่าฯ #ชั้น14 #ล้มกระดาน #บ้านจันทร์ส่องหล้า #บิ๊กป้อม #ดนัย #ทักษิณ