จากที่มีการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อปัญหาจริยธรรม ของความเป็นรัฐมนตรีต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งมีการยื่นให้สอบนายกฯอุ๊งอิ๊งในหลายกรณีที่ผ่านมา ในการแต่งตั้งรัฐมนตรีที่อาจทำให้ต้องหลุดจากนายกด้วยนั้น
ล่าสุดวันนี้ 14 กันยายน 2567 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึงกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรี (นางสาวแพทองธาร ชินวัตร)
กรณีเสนอชื่อนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จะเข้าข่ายมีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) หรือไม่ และการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 8 หรือไม่ และเข้าข่ายเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (4) ประกอบมาตรา 160 (4) (5) หรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวว่า ในหนังสือดังกล่าว มีข้อเท็จจริงอันควรขอให้ กกต. ตรวจสอบ ดังนี้ ข้อ 1. เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565 ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ อ1141/2565
พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65 (1), 126 จำคุก 2 ปี และปรับ 40,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี และปรับ 20,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษให้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจำเลยมีกำหนด 20 ปี
ข้อ 2. คำพิพากษาดังกล่าว มีส่วนที่ระบุชื่อนายสุรพงษ์ ไว้ด้วย ซึ่งโจทก์ฟ้องว่า เมื่อ 19 ธันวาคม 2563 หลังจากมีประกาศให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรีและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ก่อนถึงวันที่กำหนดเลือกตั้งตามประกาศผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี จำเลยได้ให้ทรัพย์สินเป็นเงินสดคนละ 500 บาท แก่ … จำนวน 3 คน รวม 1,500 บาท
“เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสามคนดังกล่าวให้ลงคะแนนเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ให้แก่นายสุรพงษ์ ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี หมายเลข 3 … เจ้าพนักงานจับกุมจำเลยพร้อมยึดธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 500 บาท จำนวน 3 ฉบับ รวม 1,500 บาท ของกลาง”
ข้อ 3. กรณีตามคำพิพากษาซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพนั้น ปรากฏข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับนายสุรพงษ์ ซึ่งหากนำแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 21/2567 ในส่วนที่วินิจฉัยว่า..การพิจารณาว่าบุคคลใดมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) … เป็นดุลพินิจของนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นผู้พิจารณาในฐานะผู้รับผิดชอบ
“กรณีนี้จึงเป็นความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีที่จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาดังกล่าวด้วย ดังนั้น จึงเหตุอันควรขอให้ กกต. ตรวจสอบว่า นายกรัฐมนตรีจะมีเหตุสิ้นสุดลงเฉพาะตัวจากการใช้ดุลพินิจเสนอชื่อนายสุรพงษ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม หรือไม่”
ข้อ 4. มาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 8 กำหนดว่า ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เพื่อตนเอง หรือผู้อื่น หรือมีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ
นอกจากนี้ นายเรืองไกร สรุปเพิ่มเติมว่า ดังนั้น โดยผลของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 21/2567 ทำให้การตรวจสอบทางด้านจริยธรรมจะมีตามมาอีกมากมายหลายกรณี
#อุ๊งอิ๊ง #นายกรัฐมนตรี #ครม. #ศาลพิพากษา #รมต. #เพิกถอนสิทธิลต. #ศาลรัฐธรรมนูญ #เรืองไกร #กกต. #จริยธรรม