ช็อคทั้งครม.! เปิดตัวละครเด็ดทำอุ๊งอิ๊งหลุดนายกฯ ที่แท้ รมว.ยธ.-ผลสอบกสม.มัดซ้ำรอยพิชิต จับตาลุงนิรนามบุกยื่นศาลรธน.

0

จากที่สังคมกำลังรอคอยผลสอบกรณีเอื้อประโยชน์นายทักษิณในการเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยเฉพาะการส่งผลสอบของกสม.ไปยังปปช.ท่ามกลางการจับตารัฐมนตรีใหม่ใครจะเข้าข่ายผิดจริยธรรมมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 02 กันยายน 2567 เว็บไซต์สำนักข่าวอิศรา ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวเนื่องกับกรณีดังกล่าว โดยระบุบางช่วงซึ่งมีเนื้อหาที่สำคัญว่า “เหตุการณ์ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2566 และต่อเนื่องมาอีก 181 วัน

จนเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2567 มีการแถลงออกมาอย่างชัดเจนขององค์กรตามรัฐธรรมนูญที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน คือ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โดยนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้แถลงผลสอบ นายทักษิณ ชินวัตร ได้รับสิทธิรักษาพยาบาลดีกว่าผู้ต้องขังรายอื่น โดยผลการตรวจสอบชี้ว่าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และโรงพยาบาลตำรวจ เลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม

คณะกรรมการสิทธิฯ มีความเห็นว่า เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลตำรวจ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าข่ายกระทำการเอื้อประโยชน์ให้แก่บุคคล อันอาจเป็นการกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ

กล่าวเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในขณะนั้น ซึ่งย่อมทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยตลอดและเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะมาจากการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ หรือมาจากการที่ต้องดูแลบุคคลสำคัญที่มีผลต่อการดำรงตำแหน่งทางการเมืองของตน

โดยรัฐธรรมนูญ มาตรา 164 วรรคหนึ่ง ได้บัญญัติไว้ในเรื่องหน้าที่ของรัฐมนตรีว่า ในการบริหารราชการแผ่นดิน คณะรัฐมนตรีต้องดำเนินการตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา และยังต้องปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละ เปิดเผย และมีความรอบคอบและระมัดระวังในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ

อีกทั้งต้องปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ซึ่งกำหนดมาตรฐานไว้ทั้งในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต การรู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ และการให้ข้อมูลข่าวสารตามข้อเท็จจริงแก่ประชาชนหรือสื่อมวลโดยถูกต้องครบถ้วนและไม่บิดเบือน

แต่จากผลการตรวจสอบของคณะกรรมการสิทธิฯได้แถลงต่อสื่อมวลชน มีความเกี่ยวข้องถึงผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมอย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะมีหน้าที่ทั้งโดยตรงตามกฎกระทรวง และมีหน้าที่ในการกำกับดูแลหน่วยงานในสังกัด

ดังนั้น บุคคลที่เกี่ยวข้องในตำแหน่งรัฐมนตรี จึงมีข้อสงสัยในเรื่องการเป็นผู้มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ และในเรื่องการมีพฤติกรรมที่อาจเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งเป็นคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามของความเป็นรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) และ (5) อันอาจทำให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) หรือไม่ และการแต่งตั้งรัฐมนตรีที่ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม ย่อมทำให้นายกรัฐมนตรีที่เสนอแต่งตั้งเป็นผู้ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม ที่ทำให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงไปด้วย ตามแนวการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ซึ่งกำลังจะต้องตัดสินใจนำรายชื่อรัฐมนตรีกราบบังคมทูลเพื่อเสนอแต่งตั้ง จึงต้องทำการสอดส่องอย่างทวีคูณถึงคุณสมบัติของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ถ้าไม่เช่นนั้นอาจทำให้บุคคลนิรนามต้องทำหน้าที่แทน”

(อ่านรายละเอียดhttps://www.isranews.org/article/isranews/131382-picgggdssdassss.html)

สำหรับโผคณะรัฐมนตรีล่าสุดที่สื่อมวลชนนำเสนอกันอยู่ในขณะไปในทิศทางเดียวกันนั่นคือ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ยังคงนั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็เปิดเผยว่าได้ลงนามรายชื่อรัฐมนตรีใหม่แล้ว คาดว่าจะสามารถนำทูลเกล้าฯได้ภายในสัปดาห์นี้ ก่อนจะถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อไป

 

#ครม. #อุ๊งอิ๊ง #นายกรัฐมนตี #รมต. #ทวี #รมว.ยธ. #พิชิต #กสม. #ลุงนิรนาม #ศาลรธน. #ชั้น14 #รพ.ตร.