จากที่มีการผลักดันนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง โดยตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณาจากตัวแทนพรรคการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคดีมาตรา112 ว่าเห็นควรจะนิรโทษฯให้หรือไม่ ซึ่งมีความเห็นที่แตกต่างกัน สุดท้ายก็นำมาสู่ข้อสรุปแล้ว?!?
โดยล่าสุดวันนี้ 31 กรกฎาคม 2567 มีรายงานจากรัฐสภาว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ ที่มีนายชูศักดิ์ ศิรินิล เป็นประธานนั้น
“กมธ.จะส่งเอกสารรายงานผลการศึกษา-ข้อสรุปของคณะกมธ.ต่อประธานสภาภายในสัปดาห์นี้ เพื่อให้บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมของสภาต่อไป หลังจากคณะกมธ.ซึ่งตั้งขึ้นตามมติที่ประชุมสภาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ใช้เวลา 19 สัปดาห์ในการศึกษาการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ
ประเด็นที่หลายฝ่ายให้ความสนใจมากที่สุด คือ คณะกรรมาธิการที่มีตัวแทนจากหลายพรรคการเมืองทั้งพรรครัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมถึงบุคคลภายนอกเช่นนักวิชาการ เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการให้มีการนิรโทษกรรมคดี 112”
ในการประชุมกรรมาธิการนัดสุดท้าย เมื่อ วันที่ 25 กรกฎาคม คณะกมธ.ที่มี 36คน ไม่รวมนายชูศักดิ์ ในฐานะประธานและคณะกรรมาธิการถอนตัวไปหนึ่งคน (นางอังคณา นีละไพจิตร ลาออกไปเป็น สว.) ทำให้เหลือ จำนวน 34 คน ผลการออกความเห็น แต่ไม่มีการโหวตได้ผลดังนี้
“ไม่นิรโทษ 112 จำนวน 13 เสียง, นิรโทษ 112 จำนวน 3 เสียง และนิรโทษ 112 แบบมีเงื่อนไข เช่น ห้ามกระทำผิดซ้ำ จำนวน 12เสียง หากดูจากเสียงดังกล่าว เสียงส่วนใหญ่คือ 13 เสียงไม่เห็นด้วยกับการให้นิรโทษกรรมคดี 112 และคดี 110 แต่ถ้านำความเห็นที่ว่าให้นิรโทษ 112 จำนวน 3 คนบวกกับ ให้นิรโทษแบบมีเงื่อนไข 12 คน ก็จะเท่ากับว่า มีกมธ.เห็นด้วยให้นิรโทษคดี112 จะเท่ากับ 15 เสียง
ด้านนายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม เปิดเผยว่า ตัวแทนพรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้งสามคนมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ที่จะไม่เห็นชอบให้มีการรวมนิรโทษกรรมคดี ม.112 และ ม.110 ได้แก่ นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร ,นายเจือ ราชสีห์และตนเอง
ทั้งนี้รายงานยังตรวจสอบบันทึกความเห็นของ กมธ.โดยเฉพาะจากพรรคเพื่อไทย พรรคแกนนำรัฐบาล ว่ามีท่าทีอย่างไรต่อการนิรโทษกรรมคดี 112 หลังปัจจุบันนายทักษิณ ชินวัตร ตกเป็นจำเลยคดี 112 ที่ศาลอาญา
พบว่า ในส่วนของแนวทางที่ 1 ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมคดีมาตรา 110 และ 112 ปรากฏว่า นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กรรมาธิการและที่ปรึกษา กมธ.ที่เคยเป็นอดีตทนายความให้กับนายทักษิณ เห็นว่า “ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 110 และมาตรา 112 เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและเป็นเรื่องความมั่นคง”
ขณะที่แนวทางที่ 2 นิรโทษกรรมคดีที่มีความอ่อนไหวโดยมีเงื่อนไข มีคนจากพรรคเพื่อไทย เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว 2 คนคือ นายเชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะกมธ. ซึ่ง นพ.เชิดชัยให้ความเห็นว่า “การนิรโทษกรรมผู้กระทำ ความผิดตามมาตรานี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงหรือลบล้างมาตรา 112 นอกจากนี้ ปี 2567 เป็นปีมหามงคล”
ส่วนอีกคนหนึ่งคือ นายสมคิด เชื้อคง อดีต สส.อุบลราชธานี เพื่อไทย และเคยเป็นแกนนำ สส.เพื่อไทยปี 2556 ในการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย ให้ความเห็นไว้ว่า ควรมีการนิรโทษกรรมมาตรา 112 แบบมีเงื่อนไข เพราะผู้ที่ถูกดำเนินคดีในแต่ละคดีอาจกระทำความผิดแตกต่างกัน บางคดีเป็นการจงใจ กระทำความผิด และบางคดีไม่ใช่การจงใจกระทำความผิด
ส่วนกมธ.จากพรรคก้าวไกล มีนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคกับนายรังสิมันต์ โรม เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมแบบมีเงื่อนไข เช่นนายชัยธวัชให้ความเห็นว่า การนิรโทษกรรมแบบมีเงื่อนไขโดยกำหนดเงื่อนไขและมาตรการป้องกันการกระทำผิดซ้ำที่เหมาะสม เช่น การไม่กระทำผิดซ้ำภายในระยะเวลาที่กำหนดสามปีหรือห้าปี
“ส่วนที่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมโดยไม่มีเงื่อนไข คือ น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ส.ส.กทม. หรือทนายแจม อดีตทนายความคดี 112 ของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน”
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบของทีมข่าว THE TRUTH พบว่าเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 นายพงศ์พล ได้โพสต์ภาพแบนเนอร์พร้อมข้อความกรณีดังกล่าวไว้ในทวิตเตอร์ ลอรี่ – พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ @LoryPongpol ระบุว่า
“สืบสันดาน #นิรโทษกรรม ตอนพิเศษ ดูชัดๆใครเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย กับนิรโทษกรรมคดี ม.112 จากโผคณะกรรมาธิการ ที่เตรียมต่อคิวเข้าสภาเร็วๆนี้
3 แนวทางนิรโทษกรรมคดีจูงใจการเมือง ได้แก่ ไม่นิรโทษ112 , นิรโทษ112 , นิรโทษ112 แบบมีเงื่อนไข
เป็นงัย ตรงกับที่ท่านคิดไว้มั้ยครับ?”
ขณะที่เมื่อข้อความดังกล่าวของนายพงศ์พล เผยแพร่ออกมาก็ปรากกว่า น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ หรือ ทนายแจม ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ได้โพสต์แบนเนอร์พร้อมข้อความลงในทวิตเตอร์นายพงศ์พลด้วยว่า
“กราฟฟิคสวยค่ะ แต่กมธ.มี 35 คนนะคะ พี่ลอรี่น่าจะทำมาให้ครบทั้ง 3 กลุ่มและเป็นการแสดงความเห็น ไม่ใช่ลงมติ ซึ่งความเห็นแบ่งเป็น 4 กลุ่มหลักๆ
1.ไม่นิรโทษ 112 มี 13 คน , 2.นิรโทษ 112 มีเงื่อนไข 14 คน , 3.นิรโทษ 112 ไม่มีเงื่อนไข 4 คน , 4.ไม่แสดงความเห็นหรืองดออกเสียง 4 คน
#นิรโทษฯ #112 #ทักษิณ #พท. #ปกป้องสถาบัน