การชุมนุมสาธารณะต้องแสดง วุฒิภาวะทางความคิด​​ ไม่ใช่ยั่วยุให้เกิดความเกลียดชัง

0

การชุมนุมสารธารณะต้องแสดง วุฒิภาวะทางความคิด​​ ไม่ใช่ยั่วยุให้เกิดความเกลียดชัง

ดร.เวทิน​ ชาติกุล นักวิชาการสถาบันทิศทางไทย

 

การออกมาชุมนุมแสดงจุดยืนทางการเมืองไม่ได้เป็นปัญหา​ (แม้ว่าโดยหลักการจะเห็นว่าควรเป็นวิธีสุดท้าย​ เพราะมีปัจจัยความเสี่ยงมากกว่า)

 

ระบอบประชาธิปไตยเปิดให้​ รัฐสภา​ พื้นที่โซเซียล​ เป็นพื้นที่​ เปิดให้​ “ชุมนุมทางความคิด” ได้แสดงจุดยืน​ ก็ทำกันไปเพราะ​ไม่เสี่ยงต่อการปะทะ​ บาดเจ็บ​ ล้มตาย​ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งใดก็ตาม​

 

กระทั่ง​วิธีการทางรัฐสภามันไปไม่ได้​ มันใช้การไม่ได้ ​(แบบการลักหลับ​ พรบ.นิรโทษกรรม)​ จะออกมาลงถนนถ้าต้องทำก็ต้องทำ

 

แต่ต้องไม่ทำอย่าง​ อันธพาล​ และแสดงให้ชัดว่า​ที่ เสียแรง​ เสียเวลา​ ออกมาบนถนนแล้วนี่​ เพื่ออะไร?

 

นั่นคือได้แสดง​ วุฒิภาวะทางความคิด​ วุฒิภาวะทางปัญญา​ และวุฒิภาวะทางอารมณ์​ พอที่จะให้​สังคมส่วนที่เหลือเห็นคล้อยกับการออกมาแสดงจุดยืนหรือไม่

 

ทุกการชุมนุม​อย่าง​มีอารยะมีกติกาของมัน​​

 

เงื่อนไขที่สำคัญที่สุด​ ในการชุมนุม​คือ​ ความปลอดภัยของผู้ร่วมชุมนุม

 

ซึ่งจะเกิดขึ้นได้​ ผู้ที่เป็นแกนนำและผู้มาร่วมชุมนุม​ ย่อมต้องตระหนักและต้องร่วมกันไม่สร้างเงื่อนไขของความเกลียดชัง​ระหว่างกัน​ ยั่วยุ​ อันจะนำไปสู่การเผชิญหน้าระหว่างผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม

 

ดังที่เราเคยมีบทเรียนมาแล้วในเหตุการณ์​ 6​ ตุลาคม​ 2519 ที่ทั้งสองฝ่ายต่างไม่พยายามลดเงื่อนไขที่นำไปสู่โศกนาฏกรรมกลางเมืองหลวงในที่สุด

 

ผู้ที่สร้างเงื่อนไขดังกล่าวขึ้นมา​ ก็อาจใช้เป็นเครื่องมือยั่วยุฝ่ายตรงข้าม​ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่เลวร้าย​ ไม่ดี​ ให้กับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม

 

เพราะย่อมรู้อยู่แก่ใจ​ว่าผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม​ จะรู้สึก​ โกรธ​ แค้น​ ต่อเงื่อนไขดังกล่าว

 

อันจะนำไปสู่การเผชิญหน้า​ และสิ่งที่คาดเดาไม่ได้​

 

อันเป็นเรื่องเลวร้าย​ และทำให้การชุมนุมนั้นล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง​

 

ยกเว้นแกนนำผู้ชุมนุมตั้งใจ​ใช้มวลชนเป็นเครื่องมือให้เป็นแบบนั้นอยู่แล้วตั้งแต่แรก