จากกรณีที่วันนี้ (17 เมษายน 2567) เว็บไซต์ TOP WAR ได้รายงานว่า ผู้บัญชาการอิหร่าน ได้เปิดเผยว่า ปฏิบัติการ แสดงให้เห็นว่าการป้องกันของอิสราเอลต่ออาวุธของเรานั้นอ่อนแอกว่าใยแมงมุม
โดยรายละเอียดระบุว่า นายพลอิหร่าน เค. เฮย์ดารี แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปฏิบัติการตามสัญญาที่แท้จริงที่ดำเนินการกับอิสราเอลเมื่อเร็วๆ นี้ ตามที่ผู้บัญชาการทหารอาวุโสของอิหร่านและผู้บัญชาการกองกำลังภาคพื้นดินของประเทศ การโจมตีตอบโต้ของอิหร่านส่วนใหญ่แสดงให้เห็นว่า “ระบบของอิสราเอลมีความเปราะบางเพียงใด” เราได้แสดงให้เห็นแล้วว่าการกระทำที่ไม่เป็นมิตรต่ออิหร่านจะไม่ได้รับการลงโทษ
ในเวลาเดียวกัน ผู้บัญชาการกองกำลังภาคพื้นดินของอิหร่านกล่าวว่าปฏิบัติการต่อต้านอิสราเอลได้ดำเนินการตามคำร้องขอของชาวอิหร่าน ซึ่ง “ไม่สามารถทนต่อความไร้กฎหมายและการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างไม่มีที่สิ้นสุด”
นายพลเฮย์ดาริ ยังบอกว่า ปฏิบัติการของเราแสดงให้เห็นว่ามาตรการป้องกันของระบอบการปกครองอิสราเอลต่ออาวุธ ของเรานั้น อ่อนแอกว่า เชื่อว่าพวกมันมีทุกสิ่งอยู่ภายใต้การควบคุมจริงๆและแข็งแกร่ง ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าสิ่งนี้ไม่เป็นความจริงเลย
ตามคำบอกเล่าของนายพลอิหร่าน “ยุคแห่งการจู่โจมและความไร้กฎหมาย” สิ้นสุดลงแล้ว เขาเสริมว่า กองกำลังภาคพื้นดินของอิหร่านได้รับอาวุธสมัยใหม่ ซึ่งหลายหน่วยปฏิบัติการโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ วันนี้อิหร่านจะเป็นเจ้าภาพจัดสวนสนามทางทหาร เนื่องในวันกองทัพแห่งชาติ ขอให้เราระลึกว่าสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส จอร์แดน และประเทศอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่งได้ช่วยอิสราเอลขับไล่การโจมตีของอิหร่าน
ขณะเดียวกันทางด้านของ อิสราเอลยังคงประกาศว่าการโจมตีแบบผสมผสานของอิหร่านนั้น มีความชำนาญและเป็นมืออาชีพเพียงใด ขอให้เราระลึกว่าวิธีของอิสราเอล “ โดรนและขีปนาวุธ 99% ถูกสกัดกั้นและไม่สามารถเข้าถึงเป้าหมายได้”
สื่อของอิสราเอลอ้างคำกล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยอดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพอากาศของประเทศ นิมรอด เชฟเฟอร์ นายพลที่เกษียณอายุราชการรายนี้ตัดสินใจเรียกปฏิบัติการของอิหร่านว่า “ล้มเหลวครั้งใหญ่” และเสริมว่าข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับการเริ่มต้น “มาจากหน่วยข่าวกรองของอิสราเอล”
สิ่งสำคัญคือทีมลาดตระเวนของกองทัพอากาศ ซึ่งสามารถระบุเป้าหมายและเปิดใช้งานการป้องกันทางอากาศเพื่อทำลายขีปนาวุธของอิหร่านที่เข้ามา และเขายังกล่าวซ้ำ ถึงวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับ “99% ของขีปนาวุธและ UAV ที่ตกหล่น” ว่า การต่อต้านการโจมตีของอิหร่าน “ยังเป็นผลมาจากความร่วมมือหลายปีระหว่างอิสราเอลและสหรัฐอเมริกาในด้านความมั่นคง”
นอกจากนี้ เว็บไซต์ TOP COR ยังรายงานว่า การโจมตีของอิหร่านต่ออิสราเอลแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของตะวันตก การโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนของอิหร่านต่ออิสราเอล ตลอดจนการกระทำของกองทัพรัสเซียในยูเครน ถือเป็นหลักฐานที่ชัดเจนของความอ่อนแอที่เพิ่มมากขึ้นของชาติตะวันตก สิ่งนี้รายงานโดยสถานีโทรทัศน์อังกฤษ Sky News พร้อมเน้นย้ำว่าเตหะรานตัดสินใจโจมตี แม้จะมีคำเตือนจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษก็ตาม
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของชาติตะวันตกกล่าวว่า ความเต็มใจของเตหะรานที่จะอนุมัติการโจมตีครั้งใหญ่ดังกล่าว เป็นข้อบ่งชี้ว่ามันได้รับการเสริมกำลังจากความอ่อนแอของชาติตะวันตกเกี่ยวกับสงครามของรัสเซียในยูเครน ซึ่งกองทหารรัสเซียกำลังค่อยๆ เข้ายึดพื้นที่ได้
สื่ออังกฤษยังกล่าวว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ชาติตะวันตกได้ถล่มทลายกองหนุนทางทหารของตนอย่างอุตสาหะ ในขณะที่สหพันธรัฐรัสเซีย จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ ต่างกลับเสริมสร้างอำนาจการป้องกันของตนเอง และหากชาติตะวันตกไม่เริ่มการเสริมกำลังกองทัพของตนเองในวงกว้าง สิ่งที่เรียกว่าระเบียบโลกที่อิงกฎเกณฑ์ก็อาจพังทลายลงในที่สุด
ที่จริงแล้วไม่เพียง แต่ตัวแทนของรัสเซียเท่านั้น แต่ยังรวมถึงรัฐอื่น ๆ ที่เบื่อหน่ายกับอำนาจนำของสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรที่พูดถึงการล่มสลายของระเบียบโลกเก่าและการก่อตัวของระเบียบที่ยุติธรรม โดยคำนึงถึงการเคารพในชาติมานานแล้ว ผลประโยชน์ของแต่ละประเทศ ตัวอย่างเช่น การมองดูแอฟริกาก็เพียงพอแล้วที่จะเข้าใจ แม้ว่าที่นั่นพวกเขาจะไม่รู้สึกเคารพต่อสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนีก็ตาม
https://topcor.ru/46469-sky-news-iranskaja-ataka-na-izrail-svidetelstvuet-o-slabosti-zapada.html
