ควันหนาจากไฟป่าอันหายนะของออสเตรเลียยังคงปกคลุมส่วนต่างๆ ของเมืองซิดนีย์ไว้ จากท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้มและน้ำตาล อากาศเป็นพิษเป็นอันตรายต่อประชาชนเมืองซิดนีย์
This afternoon in Sydney – orange/brown smoky skies 😷 #NoFilter #sydneysmoke #NSWfires pic.twitter.com/MI5kzIXjLM
— Melisa Henderson (@melisahenderson) December 6, 2019
คุณภาพอากาศลดลงสู่ระดับอันตรายในหลายพื้นที่ของซิดนีย์และบริเวณโดยรอบ เว็บไซต์ของกรมสิ่งแวดล้อมของรัฐนิวเซาท์เวลล์ ขัดข้องเนื่องจากมีผู้ใช้เข้าไปใช้เว็บไซต์ดังกล่าวจำนวนมาก
Sydney right now, versus 2.5 weeks ago. The current Air Quality Index is at 2214, 11 times over the hazardous level of 200 #sydneysmoke #NSWfires #sydney pic.twitter.com/CL4Od3PyQD
— Melisa Henderson (@melisahenderson) December 10, 2019
เมลิซ่า เฮนเดอร์สัน ประชาชนขาวซิดนีย์โพสต์การเปรียบเทียบของซิดนีย์ก่อนและหลังไฟป่า
จากนักดับเพลิงในรัฐนิวเซาท์เวลส์ต่อสู้กับไฟนรกที่ขึ้นไปบนต้นไม้สูงด้วยความเร็ว รัฐนิวเซาธ์เวลส์กำลังประสบกับมลพิษทางอากาศที่กว้างที่สุด และช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุด ตามข้อมูลของเครือข่าย Seven Network ของ CNN
สำนักอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลียกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าฤดูใบไม้ผลิปี 2562 เป็นช่วงที่แห้งแล้งที่สุดเป็นประวัติการณ์ รายงานจากหน่วยดับเพลิงชนบทของรัฐนิวเซาท์เวลล์ระบุว่า ณวันพฤหัสบดีมีไฟไหม้ป่าและพุ่มไม้มากกว่า 117 จุดถูกไฟไหม้และการแจ้งเตือนฉุกเฉินไฟป่า 7 ที่พร้อมกันที่รัฐนิวเซาท์เวลล์ นี่คือระดับสูงสุดของการแจ้งเตือนไฟป่า หน่วยดับเพลิงชนบทของรัฐนิวเซาท์เวลล์ ได้บอกให้ประชาชนอพยบทันที
ไฟป่าออสเตรเลียทำให้ธารน้ำแข็งที่มีชื่อเสียงของนิวซีแลนด์เป็นสีแดงและสีชมพู
อดีตนายกรัฐมนตรี Malcolm Turnbull โพสต์ภาพบน Instagram ของหมอกควันปกคลุมซิดนีย์กล่าวว่า:
ฉันบินกลับไปซิดนีย์หลายครั้ง แต่ไม่เคยเห็นเช่นนี้ ความเป็นจริงของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยิ่งร้อน ยิ่งแห้งแล้งนั่นหมายถึงไฟป่าก็มากขึ้น เราต้องเร่งการใช้พลังงานสะอาดที่มีการปลดปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ใช้พลังานอย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อที่ใช้ให้โลกเป็นที่ปลอดภัยมากขึ้นสำหรับลูกหลานของเรา