บกน้ำพร้อมปะทะ! เตหะรานจัดใหญ่เรือรบล่องหนใหม่ ๒ ลำเข้าทะเลอาหรับ ตั้งขีปนาวุธอาร์มันไว้ฉะโดรนMAV

0

อ่าวเปอร์เซียของอิหร่านและอ่าวโอมานซึ่งอยู่ติดกับชายฝั่งทางตอนใต้ซึ่งอยู่ติดกับอ่าวโอมานทอดยาวประมาณ ๑,๗๐๐ กิโลเมตร และเป็นที่ตั้งของฐานทัพสหรัฐฯ มากกว่าครึ่งโหล ทำให้สาธารณรัฐอิสลามจำเป็นต้องรักษาทรัพยากรทางทหารให้เพียงพอเพื่อปกป้องชายฝั่งของตนโดยใช้วิธีการที่ไม่สมมาตร คือต้องมีให้มากกว่าเหนือชั้นกว่าในสมรรถภาพ และวันนี้ก็สำเร็จดังความตั้งใจแล้ว แม้แต่ภาคพื้นดินก็ได้เปิดตัว สรรพาวุธที่ล้ำสมัยอย่างต่อเนื่อง เตรียมรับสถานการณ์ที่กำลังร้อนระอุ จะเต็มใจหรือไม่ เพื่อเจ้าภาพอย่าง ๓ อ.เร่งมือกระตุ้นศึกขนาดนี้ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยง เลยแสดงแสนยานุภาพเสียเลย ก่อนที่จะร่วมซ้อมรบกับรัสเซียและจีนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้

วันที่ ๒๐ ก.พ.๒๕๖๗ สำนักข่าวทาซนิมนิวส์และสปุ๊ตนิกรายงานว่า ในพิธีที่เมืองท่าบันดาร์ อับบาส ทางตอนใต้ของอิหร่าน เรือรบทหาร “เซย์ยาด ชิราซี” และ “ฮัสซัน บาเกรี” ซึ่งตั้งชื่อตามผู้บัญชาการอาวุโสที่เสียชีวิตสองคน ได้เข้าร่วมกับกองเรือของกองทัพเรือกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC)

เรือรบล่องหนทั้งสองลำเป็นโมเดลที่สองและสามของเรือชั้นโซไลมานี ซึ่งลำแรกซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ ๖ มกราคม ได้รับการตั้งชื่อตามอบู มาห์ดี อัล-มูฮันดิส ผู้บัญชาการอิรักของหน่วยระดมพลยอดนิยม (PMU) ที่ถูกสังหารอย่างพลีชีพ ร่วมกับพลโทกัสเซม สุไลมานีของอิหร่านในการโจมตีของสหรัฐฯ ในกรุงแบกแดดเมื่อเดือนมกราคม ๒๕๖๓

เรือคาตามารันออกทะเลลำใหม่นี้มีความยาว ๖๕ เมตร มีระวางขับน้ำ ๖๐๐ ตัน และขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ๔ ตัวที่ผลิตโดยอิหร่าน ซึ่งช่วยให้เรือสามารถเร่งความเร็วได้ถึง ๓๒ นอต เรือสามารถอยู่ในทะเลได้อย่างต่อเนื่องสูงสุดครั้งละ ๑๔ วัน มีพิสัยการบิน ๒,๐๐๐ ไมล์ทะเล และสามารถปฏิบัติการในสภาพทะเลปานกลางถึงขรุขระได้

บนเรือ เรือเต็มไปด้วยระบบขีปนาวุธและการป้องกันทางอากาศ รวมถึงระบบยิงขีปนาวุธแนวดิ่ง Navvab ใหม่ของอิหร่าน ปืน Gatling สามลำกล้องขนาด ๒๒มม. สี่กระบอก ปืนใหญ่อัตโนมัติขนาด ๓๐ มม. ขีปนาวุธร่อน ซีรีส์ Sayyadยิงในรัศมี ๗๐๐ ก.ม.จำนวน ๑๖ ลูก และขีปนาวุธร่อนทางเรือ Abu-Mahdi ๖ ลูก 

 

เรือสามารถบรรทุกเฮลิคอปเตอร์รบและเรือโจมตีเร็วสามลำได้

ก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือน กองทัพเรือ IRGC ยังได้รับมอบเรือลาดตระเวนลำใหม่ รวมถึงเรือเร็วและเรือทิ้งตอร์ปิโด 

เรือรบเดินทะเลของ IRGC มีความยาว ๑๕๐ เมตร และหนัก ๔,๐๐๐ ตัน เป็นเรืออเนกประสงค์สำหรับการปฏิบัติการในระยะไกล มีการติดตั้งขีปนาวุธ ระบบป้องกันภัยทางอากาศ และเรดาร์พร้อม

นอกจากนี้ยังประจำการเรือชั้น Tareq และเรือชั้น Ashura ติดอาวุธด้วยขีปนาวุธ Kowsar จับคู่กับเรดาร์ ๓ มิติที่สามารถตรวจจับและยิงเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ และขีปนาวุธร่อนที่เป็นศัตรูตกในระดับความสูงที่สูง จัดอยู่ในลักษณะเรือสปีดโบ๊ต

ในพิธีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โมฮัมหมัด บาเกรี เสนาธิการกองทัพยกย่องอำนาจในการป้องปรามทางทะเลของอิหร่านว่าเป็น “โล่ที่เชื่อถือได้” ที่ปกป้องประเทศจากการรุกรานจากต่างชาติ ขณะเดียวกันก็ตำหนิวอชิงตันที่ใช้วิกฤตในฉนวนกาซาเป็นข้ออ้างในการขยายการแสดงตนในตะวันออกกลางและอื่นๆ

บาเกรีชื่นชมอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศของอิหร่าน โดยชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์ในปัจจุบันแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดจากช่วงสงครามอิหร่าน-อิรักระหว่างปี ๑๙๘๐-๑๙๘๘ (๒๕๒๓-๒๕๓๑) ซึ่งกองทัพเรือของสาธารณรัฐอิสลามในอ่าวเปอร์เซีย “มือเปล่าต่อหน้าศัตรู” เขาย้ำว่าวันนี้ เรือรบของอิหร่านติดตั้ง “เทคโนโลยีระดับโลก ทั้ง“ออกแบบและผลิตในอิหร่าน”ได้สำเร็จ แม้ว่าจะถูกคว่ำบาตรก็ตาม

เรียกว่าเตรียมรับสมรภูมิทางทะเลเต็มพิกัด ขณะเดียวกันภาคพื้นดิน ล่าสุดได้ติดตัังระบบป้องกันภัยทางอากาศ ที่ตะวันตกมองว่าระดับเดึยวกับPatriotของสหรัฐฯ

รัฐมนตรีกลาโหม นายพลโมฮัมหมัด เรซา อัชติอานี เปิดเผยว่า “ระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศแบบใหม่ Arman ที่อิหร่านเปิดตัวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานั้นมีความว่องไวมากจนเวลาในการเตรียมพร้อมในการปฏิบัติงานต่ำกว่า ๓ นาที สามารถตรวจจับเป้าหมายได้ในระยะไกล ๑๘๐ กิโลเมตร และโจมตีเป้าหมายได้ในรัศมี ๑๒๐กิโลเมตร”

อาร์มาน หรือที่รู้จักในชื่อ ‘Tactical Sayyad’ มีระบบป้องกันตนเองระยะสั้นในหนึ่งไซโลที่ทำให้อาวุธมีภูมิคุ้มกันต่อภัยคุกคามจากระดับความสูงต่ำ 

ระบบขีปนาวุธระดับความสูงต่ำ ชื่อว่า อะซารัคช์(Asarakhsh) ได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องศูนย์กลางที่สำคัญและตำแหน่งสำคัญของประเทศจาก โดรนที่ไม่เป็นมิตรและยานพาหนะทางอากาศขนาดเล็ก (MAV:Micro Air Vehicle) หรือคือโดรนแมลงที่คาดว่าจะถูกใช้มากในสงครามโดรน

ท่ามกลางสถานการณ์ร้อนระอุทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง มีศูนย์กลางขัดแย้วอยู่ที่ฉนวนกาซา โดยอิสราเอลทำศึกล้างเผ่าพันธ์ปาเลสไตน์อย่างเปิดเผยภายใต้ข้ออ้างทำลายล้างกลุ่มฮามาสที่ลุกขึ้นสู้ในวันที่ ๗ ตุลาคมปีที่แล้ว ยืดเยื้อมาถึงวันนี้เป็นวันที่ ๑๓๕ วันแล้ว อิสราเอลไม่สามารถสยบขบวนการต่อต้าน หรือ Resistance ที่นับวันมีผู้เข้าร่วมมากขึ้น เมื่ออิสราเอลขยายแนวรบไปทางชายแดนตอนเหนือติดเลบานอน และเตรียมบุกราฟาห์ได้สร้างความขัดแย้งกับอียิปต์ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นพร้อมๆกับสหรัฐฯและสหราชอาณาจักรถล่มโจมตีเยเมนเพื่อปกป้องอิสราเอลทุกรูปแบบ ไม่เว้นในสหประชาชาติและในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศICJ  

จนถึงวันนี้ทุกฝ่ายชัดเจนแล้วว่าสหรัฐฯไม่ได้ต้องการสันติภาพจริง และกำลังต้องการมีอำนาจเบ็ดเสร็จในภูมิภาคตะวันออกกลางผ่านแอ็คชั่นของอิสราเอลที่ไม่มีใครกล้าแตะต้อง ดูเหมือนว่าปัญหาของตะวันออกกลางหรือกาซายากที่จะแก้ไขได้ด้วยวิถีทางการทูตหรือการเจรจา พันธมิตรโลกหลายขั้วผลักดันการแก้ไขด้วยการเมืองมานานท่ามกลางการเสียชีวิตของชาวปาเลสไตน์รายวัน วันนี้ขยับเข้าสู่มาตรการทางเศรษฐกิจซึ่งเยเมนนำโด่งมาก่อนแล้ว แน่นอนว่า ๓ อ.ไม่สะทกสะท้านแน่ดูลีลาของสหรัฐฯก็จะเห็น คงไม่พ้นต้องรบ สงครามใหญ่คืบคลานใกล้เข้ามาทุกที ข้อสังเกตคือปลายสัปดาห์นี้รัสเซียจะหารือกับกลุ่ม Resistance อิหร่านเตรียมพร้อมทั้งภาคทะเลและภาคพื้นดิน จีนมีบทบาทอย่างเงียบๆในฐานะ BRICS และSCO ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมรอกดปุ่ม ห้วงเวลานี้ตะวันออกลางฮ๊อต-ฮีตสุดพร้อมลุกเป็นไฟในทุกวินาที!!