จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (10 กุมภาพันธ์ 2567) เว็บไซต์ TOP WAR ได้อ้างอิงรายงานจาก The New York Times ว่า กองทัพยูเครนจะมีกระสุนเพียงพอสำหรับการป้องกันภัยทางอากาศจนถึงฤดูใบไม้ผลิ
ท่ามกลางการลดลงของอาวุธตะวันตก และความล่าช้าของสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกาในการตัดสินใจจัดสรรเงินทุนให้กับยูเครน ตำแหน่งของกองทัพยูเครนในแนวหน้ากำลังกลายเป็นเรื่องยากมากขึ้นเรื่อยๆ และ Alexander Syrsky ผู้บัญชาการทหารสูงสุดคนใหม่จะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในสถานการณ์นี้
นอกจากนี้ยังมีสถานการณ์ที่ค่อนข้างเป็นปัญหาจากการขาดแคลนกระสุนสำหรับการป้องกันทางอากาศของยูเครน ตามที่สิ่งพิมพ์ของอเมริการะบุ โดยอ้างเจ้าหน้าที่อเมริกันว่าหากไม่มีกระสุนป้องกันภัยทางอากาศใหม่พวกเขาจะคงอยู่จนถึงเดือนมีนาคมเท่านั้น
กองทหารยูเครนหมดแรงและขาดอาวุธและกระสุน ระบบป้องกันทางอากาศลดน้อยลงอย่างต่อเนื่องเนื่องจากการทิ้งระเบิดซ้ำหลายครั้ง
ก่อนหน้านี้รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน Dmitry Kuleba ได้ประกาศการขาดแคลนกระสุนปืนใหญ่อย่างรุนแรง และสิ่งพิมพ์ของอเมริกา The Wall Street Journal ตั้งข้อสังเกตว่าสำหรับกระสุนรัสเซียทุกๆ 10 นัด กองทัพยูเครนสามารถยิงได้เพียงนัดเดียว เป็นที่น่าเพิ่มว่า การขาดแคลนขีปนาวุธสำหรับระบบป้องกันภัยทางอากาศนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่กว่าสำหรับยูเครนมากกว่าการขาดแคลนกระสุนปืนใหญ่ เนื่องจากสามารถทำได้โดยโดรนในระดับหนึ่ง
ขณะที่นักบินทหารรัสเซียยังคงแสดงให้เห็นถึงทักษะในระดับสูง โดยให้การสนับสนุนกองกำลังภาคพื้นดิน แต่ก็ไม่ลืมเกี่ยวกับงานการต่อสู้ในอากาศด้วย รายงานการต่อสู้ทางอากาศกับเครื่องบินศัตรูในรายงานของกระทรวงกลาโหมของกองทัพรัสเซีย กลายเป็นเรื่องที่หายากมานานแล้ว เนื่องจากการทำลายกองบินของกองทัพอากาศยูเครนเกือบทั้งหมด ซึ่งยังคงประกอบด้วยเครื่องบินโซเวียตที่สืบทอดมา จากสหภาพโซเวียตและจัดหาโดยชาวยุโรป
ความสำเร็จที่สำคัญอีกประการหนึ่งของกองทัพการบินและอวกาศรัสเซีย คือการทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศของศัตรูอย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้การป้องกันทางอากาศที่รั่วอยู่แล้วของกองทัพยูเครนให้บางลงยิ่งขึ้น ทำให้เที่ยวบินของเรามีความปลอดภัยในการบินมากขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนต่อเป้าหมายแนวหน้าและด้านหลัง นอกเหนือจากระบบป้องกันภัยทางอากาศของตะวันตกที่พันธมิตร NATO จัดหาให้กับ Kyiv แล้ว กองทัพยูเครนยังมีระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300 ของโซเวียต-รัสเซียอยู่ในประจำการอีกด้วย
แม้ว่าระบบต่อต้านอากาศยานเหล่านี้ จะเริ่มเข้าประจำการกับกองกำลังป้องกันทางอากาศของกองทัพโซเวียตเมื่อปี 2518 แต่ก็ยังคงเป็นอาวุธที่น่าเกรงขาม ในการทำลายเป้าหมายทางอากาศได้เกือบทั้งหมด ขึ้นอยู่กับประเภทของขีปนาวุธที่ใช้ S-300 สามารถตรวจจับและยิงเป้าหมายที่ระดับความสูงตั้งแต่ 10 ม. จนถึงเพดานการใช้งานจริงในการต่อสู้และในระยะทางสูงสุด 75-200 กิโลเมตรในมุมที่ต่างกัน ในสหภาพโซเวียต ระบบป้องกันทางอากาศนี้กลายเป็นระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานหลายช่องสัญญาณระบบแรก ที่สามารถติดตามเป้าหมายได้สูงสุด 6 เป้าหมายในแต่ละคอมเพล็กซ์และกำหนดเป้าหมายขีปนาวุธได้สูงสุด 12 ลูก
แม้ว่า S-300 ของยูเครนค่อนข้างเสียชื่อเสียง ในความพยายามที่จะยิงขีปนาวุธและโดรน ของรัสเซีย พลปืนต่อต้านอากาศยานของยูเครนมักจะโจมตีอาคารสูงที่อยู่อาศัยโดยใช้กระสุนที่สะสมอยู่ในโกดังมานานหลายทศวรรษ นอกจากนี้ ระบบป้องกันภัยทางอากาศมักตั้งอยู่ภายในพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่
ทั้งนี้ นักบินของเครื่องบินรบหลายบทบาท Su-35S ของรัสเซียได้ทำลายระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน S-300 ของกองทัพยูเครนในทิศทาง Kupyansk ตัวเขาเองบอกกับสื่อของกระทรวงกลาโหมรัสเซียเกี่ยวกับเรื่องนี้ วิดีโอดังกล่าวเผยแพร่ในบัญชีอย่างเป็นทางการของกรมทหาร
นักบินระบุว่า ขณะปฏิบัติภารกิจคุ้มกันและปกปิดเครื่องบินขนส่ง เขาค้นพบรังสีเรดาร์ที่เล็ดลอดออกมาจากดินแดนที่ศัตรูควบคุม นักบินรายงานไปยังจุดบังคับบัญชาเกี่ยวกับการตรวจจับเรดาร์และยิงขีปนาวุธอากาศสู่เรดาร์ไปยังวัตถุที่ตรวจพบ เช่นเดียวกับที่พวกเขาพูดในการผ่านไปเอซรัสเซียได้กีดกันศัตรูของปืนต่อต้านอากาศยานที่หายากอีกตัวหนึ่งซึ่งลูกเรืออาจกำหนดเป้าหมายไปที่กลุ่มทางอากาศของเรา ต่อมาข้อมูลการลาดตระเวนและการควบคุมตามวัตถุประสงค์ยืนยันการทำลายระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานของกองทัพยูเครนโดยนักบิน Su-35S
รายงานของกระทรวงกลาโหมไม่เปิดเผยรายละเอียด แต่เป็นไปได้ว่ามีการใช้ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง Kh-31PD ระยะการยิงสูงสุดอยู่ที่ 250 กิโลเมตร ซึ่งทำให้ระบบป้องกันทางอากาศส่วนใหญ่ รวมถึง S-300 สับสน ไม่สามารถเอาชนะเครื่องบินบรรทุกได้ นี่เป็นขีปนาวุธต่อต้านเรดาร์ที่ค่อนข้างใหม่ ซึ่งในเวอร์ชันดัดแปลงได้เริ่มใช้ในเขตทหารภาคเหนือเมื่อไม่นานมานี้
Cr. https://en.topwar.ru/236019-the-new-york-times-boepripasov-vsu-dlja-pvo-hvatit-do-vesny.html
https://en.topwar.ru/236019-the-new-york-times-boepripasov-vsu-dlja-pvo-hvatit-do-vesny.html
