ท่ามกลางสถานการณ์สู้รบที่คุโชนในยุโรป และตะวันออกกลาง หันมาใกล้บ้านน่านน้ำทะเลจีนใต้ก็เริ่มระอุคุกรุ่นไม่น้อย เมื่อสหรัฐจับมือฟิลิปปินส์เคลื่อนไหวยั่วยุจีนต่อเนื่อง ทั้งซ้อมรบหน้าบ้าน ทั้งแล่นเรือเข้าไปท่าในช่องแคบไต้หวัน ล่าสุดฟิลิปปินส์ออกหน้า ส่งกำลังทหารเข้าไปเพิ่มในเกาะพิพาท ทำให้จีนหัวร้อนออกมาเตือนเดือด แต่ดูเหมือนว่าฟิลิปปินส์จะไม่สนใจเพราะมั่นใจว่ามีสหรัฐฯและพันธมิตรหนุนหลัง สถานการณ์นี้คุ้นๆของกรณีขัดแย้งในตะวันออกกลางและยูเครน
วันที่ ๙ ก.พ.๒๕๖๗ สำนักข่าวซีจีทีเอ็นและสปุ๊ตนิครายงานว่า หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี ฟันฉับว่ามะนิลาไม่ควร “เล่นกับไฟ” ฟิลิปปินส์ควรเข้าใจว่าปัญหาของไต้หวันถือเป็น “เส้นสีแดง” สำหรับจีนและไม่สามารถข้ามไปได้
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของฟิลิปปินส์ กิลเบิร์ต เทโอโดโร เรียกร้องให้เพิ่มกำลังทหารของประเทศบนเกาะมาวูลิสทางตอนเหนือสุดของประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างหมู่เกาะบาตาเนสและไต้หวัน
“ประเด็นไต้หวันถือเป็นผลประโยชน์หลักของจีนและเป็น ‘เส้นสีแดง’ ที่ไม่สามารถข้ามได้ บุคคลที่เกี่ยวข้องในฟิลิปปินส์ควรมีความเข้าใจที่ชัดเจนในเรื่องนี้ ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง และไม่เล่นแบบดุเดือด ในประเด็นของไต้หวันเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกใช้และถูกทำร้ายในที่สุด” หวังกล่าวในการบรรยายสรุป
จีนและฟิลิปปินส์เป็นประเทศเพื่อนบ้าน และการแลกเปลี่ยนฉันมิตรควรยังคงเป็นจุดสนใจหลักในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ของพวกเขา เขากล่าวเสริม
ในเดือนมกราคม เทโอโดโรได้ประกาศแผนที่จะเพิ่มกิจกรรมทางทหารกับสหรัฐฯ และพันธมิตร เนื่องจากจีนมีท่าที “ก้าวร้าว” ที่ถูกกล่าวหา รัฐมนตรีกลาโหมกล่าวว่าการเสริมสร้างขีดความสามารถทางทหารจะช่วยสนับสนุนเสถียรภาพของภูมิภาคอย่างมีประสิทธิผล ในเดือนเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์และจีนเห็นพ้องที่จะพัฒนาความร่วมมือและแก้ไขเหตุการณ์ในทะเลจีนใต้เพื่อลดความตึงเครียดในภูมิภาค
ความตึงเครียดระหว่างฟิลิปปินส์และจีนในน่านน้ำที่เป็นข้อพิพาทของทะเลจีนใต้เพิ่มสูงขึ้นนับตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เมื่อเรือของฟิลิปปินส์เสร็จสิ้นภารกิจเสริมกำลังเสริมในสันดอนโธมัสที่สอง แม้จะสกัดกั้นความพยายามของหน่วยยามฝั่งจีนก็ตาม
นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังมีข้อพิพาทเรื่องดินแดนเหนือเกาะหลายแห่งในทะเลจีนใต้
ก่อนหน้านี้มีประเด็นร้อนเกี่ยวกับเกาะหนานซาและเหรินอ้ายเจียว มาแล้วตอนปลายเดือนธันวคมปีที่แล้ว และซาไป ตอนนั้นปักกิ่งเรียกร้องให้ฟิลิปปินส์หยุดก่อปัญหา ก่อกวนประเด็นนี้และปลุกปั่นความขัดแย้งในทะเล
จาง เสี่ยวกัง โฆษกกระทรวงกลาโหมของจีน เน้นย้ำว่ากองทัพจีนได้ยื่นคำร้องแสดงความเคารพและประท้วงอย่างรุนแรงต่อฝ่ายฟิลิปปินส์
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๖๖ โดยไม่สนใจคำเตือนซ้ำๆ จากฝ่ายจีน ฝ่ายฟิลิปปินส์ได้บุกรุกเข้าไปในน่านน้ำเหรินอ้ายเจียวที่อยู่ติดกันในหนานซา คุนเตา ของจีน ในความพยายามที่จะส่งวัสดุก่อสร้างไปยังเรือรบที่ถูกจอดเทียบท่าอย่างผิดกฎหมาย
เรือของฟิลิปปินส์จงใจชนเรือของหน่วยยามฝั่งจีน (CCG) ในลักษณะที่เป็นอันตราย ทำให้เกิดรอยขีดข่วน และบุคลากรบางคนของกองทัพฟิลิปปินส์ก็ขึ้นเรือรบลำดังกล่าวที่ถูกจอดเทียบท่าอย่างผิดกฎหมาย CCG ใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อควบคุมมัน และการจัดการ ณ สถานที่เกิดเหตุอย่างมืออาชีพ ควบคุมอย่าง สมเหตุสมผล และถูกกฎหมาย
จางกล่าวว่าฟิลิปปินส์ได้ละเมิดปฏิญญาว่าด้วยการปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ (DOC) อย่างร้ายแรง และบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในทะเลจีนใต้
โฆษกเน้นย้ำว่า ประเทศนอกภูมิภาคบางประเทศที่มีเจตนาไม่ดีได้จุดชนวนสถานการณ์และจุดไฟ เขาเรียกร้องให้ประเทศที่เกี่ยวข้องยุติการละเมิดและการยั่วยุโดยทันที และเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สถานการณ์บานปลายและเสื่อมโทรมไปกว่านี้
จีนจะยังคงใช้มาตรการที่จำเป็นต่อไปเพื่อปกป้องอธิปไตยในดินแดน สิทธิทางทะเล และผลประโยชน์อย่างมั่นคง
จีนพูดเสมอว่ากองกำลังต่างชาติลงมือเมื่อไหร่ จีนชัดจะตอบโต้ไม่ลังเล ข้อพิพาททะเลจีนใต้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี โดยหลายประเทศ ได้แก่ จีน ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย บรูไน และไต้หวัน ต่างก็ต่อสู้เพื่ออธิปไตยในภูมิภาคทางทะเลในมุมมองของตัวเอง
๖๐เปอร์เซ็นต์ของการค้าทางทะเลผ่านเอเชีย โดยทะเลจีนใต้มีการขนส่งประมาณหนึ่งในสามของทั่วโลก ล่าสุด เรือรบในเครือสหรัฐฯ และตะวันตกได้ข้ามพื้นที่ดังกล่าวโดยเป็นส่วนหนึ่งของการยั่วยุต่อจีนอย่างต่อเนื่อง
นับตั้งแต่สหรัฐนเริ่มกระตุ้นให้เกิดความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคมากขึ้น จีนได้เริ่มใช้จุดยืนในการป้องกันอย่างเข้มข้นโดยการสร้างเกาะเทียม และจัดกำลังหน่วยยามฝั่งและการลาดตระเวนทางทะเลเข้มขึ้นโดยเฉพาะในช่องแคบไต้หวันที่หวิดๆจะจ๊ะเอ๋กับเรือพิฆาตของสหรัฐฯและตะวันตกที่พากันพาเหรดมาเยือนแถวๆนี้เพื่อท้าทายจีนอย่างโจ่งแจ้ง ไม่แน่มีโอกาสเกิดกระทบกระทั่งกันสักวันก็เป็นได้
ไม่รู้ความอดทนของจีนจะถึงขีดจำกัดเมื่อไหร่ แต่การเดินหน้าซ้อมรบต่อเนื่องรอบๆเกาะไต้หวัน ตลอดจนการประกาศเจตจำนงค์รวมชาติกับไต้หวันส่งสัญญาณให้สหรัฐฯและบริวารรู้ว่า จีนจะไม่ประณีประนอมเรื่องคำถามไต้หวันในทุกกรณี ทั้งหมดนี้บ่งบอกว่า คำถามไต้หวันยังเป็นประเด็นเปราะบางของการปะทะทางทหารในย่านทะเลจีนใต้ ท่ามกลางกระแสขัดแย้งในยุโรป ตะวันออกกลางคุโชน เดิมภารกิจยั่วยุ-ต่อต้านจีนมีกลุ่มออคัส (AUKUS) ที่ประกอบด้วยออสเตรเลีย-AU อังกฤษ-UK และสหรัฐฯ-US ตอนนี้เพิ่มฟิลิปปินน์เป็นผู้เอาการ ต่อจากเกาหลีใต้และญี่ปุ่นแล้ว ภายใต้ธงยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ ประเทศไทยจึงเป็นที่หมายปองของทุกฝ่าย ต้องวางตัวในความสัมพันธ์กับมหาอำนาจให้สมดุล!!