คำตัดสินประวัติศาสตร์! ICJ สั่ง ‘อิสราเอล’ หยุดการล้างเผ่าพันธุ์ เดินหน้าบีบหยุดยิงถาวร เนทันยาฮูจ่อรับกรรม

0

ตื่นเต้นกันทั้งโลกรอคอยฟังผลวันศุกร์ที่ผ่านมา ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือICJ พิพากษา อิสราเอลผิดจริงคดีล้างเผ่าพันธ์ และประกาศมาตรการชั่วคราว

ศาลในกรุงเฮกตัดสินเมื่อวันศุกร์ว่า“รัฐอิสราเอลจะต้องใช้มาตรการทั้งหมดเพื่อป้องกันการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา”ลงโทษสมาชิกในกองทัพที่กระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ลงโทษการเรียกร้องต่อสาธารณชนเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และลงโทษทันที อนุญาตให้มีความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมากขึ้นในวงล้อมของชาวปาเลสไตน์”

ศาลไม่ได้เรียกร้องให้อิสราเอลยุติปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซา แอฟริกาใต้ ซึ่งนำคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มายื่นต่อหน้า ICJ ได้ร้องขอให้ศาลสั่งให้อิสราเอล“ระงับปฏิบัติการทางทหารในและต่อฉนวนกาซาทันที”

ประเด็นนี้ถือว่าล้มเหลวไม่ได้สั่งหยุดยิงในทันที เรื่องนี้นักกฎหมายชั้นนำออกมาฟันธงว่า แม้ศาลจะไม่อาจสั่งหยุดยิงในทันทีแต่สามารถเดินหน้าบีบให้ยุติศึกถาวรได้แน่นอน

ชัดเจนแล้วโดยศาลโลกประทับตราประเทศอิสราเอลเป็นประเทศที่ก่ออาชญากรรมสงครามล้างเผ่าพันธ์ แน่นอนผู้บริหารประเทศจะไม่รอดโดยเฉพาะเนทันยาฮูไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไร ก็มีตราประทับหน้าผากเป็นผู้ต้องหาศาลโลกที่มีความผิดชัดเจน ทีมคณะรัฐมนตรีสงครามก็โดนด้วยแน่ ผลตัดสินของศาลICJ สะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วโลก และโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา

วันที่ ๒๗ ม.ค.๒๕๖๗ สำนักข่าวอัลมายาดีนและปาเลสไตน์โครนิเคิลรายงานว่าในการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้นของศาลโลกระบุว่าจะไม่ยกฟ้องคดีนี้แม้จะมีคำขอของอิสราเอลก็ตาม โดยเรียกร้องให้อิสราเอลยุติปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดที่สอดคล้องกับการล้างเผ่าพันธุ์

เมื่อวันศุกร์ ศาลชั้นนำของสหประชาชาติมีคำสั่งให้แอฟริกาใต้เสนอสิทธิบางประการในคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่อสงครามของอิสราเอลในฉนวนกาซาได้

ในขณะที่การอ่านดำเนินไป ศาลยอมรับสิทธิของชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาที่จะได้รับการคุ้มครองจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โดยเสริมว่าชาวปาเลสไตน์เป็นกลุ่มที่ได้รับการคุ้มครองภายใต้อนุสัญญาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อย่างไรก็ตาม คำตัดสินไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาหลักของคดีนี้ ไม่ว่าจะเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือไม่ แต่มุ่งเน้นไปที่การแทรกแซงเร่งด่วนที่แอฟริกาใต้ต้องการ

หนึ่งในมาตรการที่แอฟริกาใต้ร้องขอคือการยุติปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลทันที ซึ่งทำลายพื้นที่ส่วนใหญ่และสังหารชาวปาเลสไตน์มากกว่า ๒๖,๐๐๐ คน ตามการระบุของหน่วยงานสาธารณสุขในฉนวนกาซา

ศาลสั่งให้ “อิสราเอล” ดำเนินมาตรการทั้งหมดเพื่อป้องกันการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากองกำลังของตนไม่ก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และใช้มาตรการเพื่อปรับปรุงสถานการณ์ด้านมนุษยธรรม

“อิสราเอล” ต้องยื่นรายงานต่อศาลภายในหนึ่งเดือนโดยระบุรายละเอียดการดำเนินการเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว นอกจากนี้ จะต้องดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันและลงโทษการยั่วยุการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยตรงในบริบทของสงครามกับฉนวนกาซา

ศาลกล่าวว่า “รัฐอิสราเอลจะต้อง ใช้มาตรการทั้งหมดที่อยู่ในอำนาจของตนเพื่อป้องกันการกระทำใดๆ ภายในขอบเขตของมาตราที่ ๒ ของอนุสัญญาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” 

ในการตัดสินใจที่ครอบคลุม คณะกรรมการผู้พิพากษา ๑๕ คนจากทั้งหมด ๑๗ คนของ ICJ ลงมติเห็นชอบมาตรการเร่งด่วน  ยกเว้นผู้พิพากษายูกันดาและอิสราเอล คำตัดสินโดยรวมตอบสนองต่อคำร้องขอส่วนใหญ่ของแอฟริกาใต้ แม้ว่าจะไม่รวมคำสั่งให้ “อิสราเอล” ยุติปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซาทันทีก็ตาม

เมื่อปีที่แล้วแอฟริกาใต้ได้ยื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๐๒๓ โดยกล่าวหาว่ากองกำลังอิสราเอลละเมิดอนุสัญญาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของสหประชาชาติ คำที่แอฟริกาใต้ยื่นต่อศาลในกรุงเฮกอ่านว่าปฏิบัติการของกองกำลังยึดครองอิสราเอล [IOF] “มีลักษณะเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เนื่องจากพวกเขามุ่งมั่นด้วยเจตนาเฉพาะที่จำเป็นในการทำลายชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาโดยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มชนชาติปาเลสไตน์ เชื้อชาติ และกลุ่มชาติพันธุ์”

ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศมีอำนาจออก “มาตรการชั่วคราว” ซึ่งเป็นคำสั่งฉุกเฉินที่มุ่งปกป้องชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาจากการละเมิดอนุสัญญาที่อาจเกิดขึ้น คำสั่งเหล่านี้มีผลผูกพันทางกฎหมายและไม่สามารถอุทธรณ์ได้ แม้ว่าการบังคับใช้จะถือเป็นเรื่องท้าทายก็ตาม

นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู เคยบอกเป็นนัยว่ารัฐบาลของเขาอาจไม่ปฏิบัติตามคำสั่งใดๆ ของ ICJโดยระบุว่า “จะไม่มีใครหยุดเราได้ ไม่ใช่กรุงเฮก ไม่ใช่ฝ่ายอักษะแห่งความชั่วร้าย และไม่มีใครอื่น”

ความสามารถในการบังคับใช้ที่จำกัดของ ICJ ได้รับการยกตัวอย่างเมื่อสั่งให้รัสเซียยุติการรุกรานยูเครน ซึ่งเป็นคำสั่งที่ไม่ได้รับความสนใจ หากศาลตัดสินลงโทษ “อิสราเอล” อาจเพิ่มแรงกดดันทางการเมือง และอาจนำไปสู่การคว่ำบาตร

ในระหว่างพิจารนาคดีจุดยืนของอิสราเอลได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจังจากสหรัฐฯ ซึ่งต่อมาเยอรมนีก็เข้าร่วมโดยประกาศว่าจะเข้ามามีส่วนร่วมในฐานะบุคคลที่สามเพื่อสนับสนุน “อิสราเอล” 

ความเห็นจากศาสตราจารณ์ดร.เทรียสติโน มราริเนลโล (Dr. Triestino Mariniello) ศาสตราจารย์ด้านนิติศาสตร์ที่ Liverpool John Moores University ดร. มาริเนลโลยังเป็นสมาชิกของทีมกฎหมายสำหรับเหยื่อในฉนวนกาซาที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC)

เขากล่าวว่า “มันเป็นการตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่ง ข้อกล่าวหาทั้งหมดของแอฟริกาใต้เกี่ยวกับคำจำกัดความของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้รับการยอมรับจากศาลแล้ว ด้วยเหตุนี้ คำแถลงการป้องกันของอิสราเอลทุกประเด็นจึงถูกปฏิเสธ  

ตัวอย่างเช่น คำกล่าวอ้างของอิสราเอลที่ว่าอิสราเอลทำทุกอย่างตามอำนาจของตนเพื่อบรรเทาความทุกข์ทรมานของประชากรพลเรือนในฉนวนกาซา 

ศาลปฏิเสธความพยายามของอิสราเอลในการลดทอนคำแถลงเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเจ้าหน้าที่อิสราเอล ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อันที่จริง แถลงการณ์หลายฉบับ รวมทั้งคำพูดของรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ยูอาฟ กัลลันต์ และประธานาธิบดีไอแซค เฮอร์ซ็อก ของอิสราเอล ได้รับการอ้างอิงและอ่านโดยประธานาธิบดีเผยแพร่ต่อสื่อสาธารณะอย่างโจ่งแจ้ง”

ต่อคำถามที่ว่าสามารถคาดหวังอะไรจากผลการพิจารณาคดีนี้? ดร.มาริเนลโล กล่าวว่า “ฉันคิดว่านี่เป็นการตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์เพราะเป็นครั้งแรกที่อิสราเอลจะต้องได้รับการลงโทษ จะมีผลกระทบระยะกลางและระยะยาวซึ่งบางส่วนยังคาดการณ์ได้ยากในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น ในการแลกเปลี่ยนอาวุธโดยบริษัทอาวุธและรัฐไปยังอิสราเอล อาจมีกรณีของเขตอำนาจศาลสากลมากกว่านี้ คล้ายกับกรณีที่เกิดขึ้นกับเฮอร์ซ็อกในสวิตเซอร์แลนด์

และฉันยังสงสัยอย่างมากว่าศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) สามารถเพิกเฉยต่อความสำคัญของคำตัดสินดังกล่าวได้อย่างไร”

ฉันเข้าใจบางส่วนถึงความคับข้องใจที่ไม่เรียกร้องให้หยุดยิงโดยตรง อย่างไรก็ตาม ศาลกล่าวว่าอิสราเอลจะใช้ ‘มาตรการทั้งหมดที่อยู่ในอำนาจของตนเพื่อป้องกันการกระทำทั้งหมดภายในขอบเขตของมาตรา ๒ ของอนุสัญญาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง: การฆ่าสมาชิกของกลุ่ม; ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายหรือจิตใจอย่างร้ายแรงต่อสมาชิกในกลุ่ม จงใจก่อให้เกิดสภาพกลุ่มแห่งชีวิตที่คำนวณไว้เพื่อนำมาซึ่งการทำลายล้างทางกายภาพทั้งหมดหรือบางส่วน” กล่าวอีกนัยหนึ่ง มาตรการชั่วคราวหมายถึงการหยุดยิงถาวร

เอาละเหวย เนทันยาฮูและพวกงานนี้ไม่รอด แน่นอนอิสราเอลออกมาปฏิเสธคำตัดสินของศาลแต่ปิดความหวาดวิตกไม่มิด และสิ่งแรกที่เกิดขึ้นแล้วคือความระส่ำระสายภายในประเทศ ทั้งกระแสต่อต้านจากประชาชน จากฝ่ายค้านและฝ่ายบริหารทั้งฝ่ายการเมืองและการทหารกำลังลับมีดรอซ้ำเนทันยาฮูแล้ว จับตาท่าทีของสหรัฐฯและพวกจะออกมาร่ายเพลงยุทธอะไร หากเอาไม่อยู่เนทันยาฮูก็มีสิทธิ์ถูกเทเหมือนเซเลนสกี้ กรรมกำลังไล่ล่ามือสังหารของไซออนนิสต์วันนี้ถูกตัดสินแล้วไม่ใช่แค่จากศาลแต่จากประชาคมโลกด้วย!!