รบกันเดือดมาเป็นวันที่ ๑๑๑ แล้วอิสราเอลไม่สามารถปิดจ๊อบ ขยี้ฮามาสได้อย่างที่คุยโอ่แต่แรก และพบว่าหากบุกเข้าพื้นที่จะโดนสวนยับกลับมาสะบักสะบอม เมื่อพ่ายแพ้ในสนามรบภาคพื้นดินเพราะสู้แบบประชิดตัวไม่ได้ ก็ยึดพื้นที่ไม่ได้จริง เลยต้องกลับมาใช้ยุทธวิธี ถล่มปูพรม คร่าชีวิตประชาชนพลเรือนแทน
เป็นความโหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรมที่ทั้งโลกได้เห็นประจักษ์ มีแต่สหรัฐฯและตะวันตกที่ทำเป็นไม่เห็น ตราบใดที่ไม่สามารถเข้าประจันบานยึดพื้นที่ ก็หมายความว่าแพ้ ทุกวันนี้เลยต้องเผยไต๋ขอหยุดยิง ๑-๒ เดือนเพื่อแลกตัวประกัน แล้วจะกลับมาถล่มต่อไม่ยุติศึก เงื่อนไขแบบนี้ใครจะคุยด้วย การเจรจาหยุดยิงจึงแป๊ก จนกาตาร์ที่เป็นตัวกลางออกมาบ่นว่า อิสราเอลทำบรรยากาศเจรจาหาข้อสรุปได้ยาก
มาดูบรรยากาศสู้รบในแนวหน้าจะพบว่า IOFถูกไล่บดขยี้ในทุกจุดเดือดที่กาซา และโดนฮิซบุลเลาะห์สาดขีปนาวุธใส่รัวๆ อยู่ไม่ได้ทั้งคนอิสราเอลและทหาร
วันที่ ๒๖ ม.ค.๒๕๖๗ สำนักข่าวปาเลสไตน์โครนิเคิลและอัลมายาดีน รายงานยว่าอาบู โอไบดา โฆษกกลุ่มอัล-กัสซามของฮามาส กล่าวว่าตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา นักสู้ “ยืนยันว่าพวกเขาชำระบัญชีทหารไซออนนิสต์ ๕๓ นายในระยะประชิด ซุ่มโจมตีทหาร ๙ นาย และทำให้ทหารหลายสิบนายล้มตายและบาดเจ็บในภารกิจทางทหาร ๕๗ภารกิจ และยานรบ ๖๘ คันเป็นเป้าหมายถูกทำลายราบ
โฆษกกล่าวว่ากลุ่มต่อต้านได้ปฏิบัติการทางทหารอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทหารอิสราเอลบาดเจ็บล้มตายกว่าครึ่งร้อย สร้างความกดดันต่ออิสราเอลอย่างหนัก แสดงท่าทีขอพักรบ ๒ เดือนผ่านการเจรจาเรื่องแลกตัวประกัน แต่จะไม่ยอมยุติศึก เงื่อนไขแบบนี้ฮามาสรับไม่ได้อยู่แล้ว ทั้งๆี่อิสราเอลเป็นฝ่ายเสียเปรียบในการรบ จากที่แข็งกร้าวไม่ขอเจรจา พอถูกกดดันจากประชาชนและพรรคฝ่ายค้านมากเข้าจึงเปลี่ยนท่าที
กลุ่มอัลกอสซัม (กลุ่มฮามาส)
“กลุ่มอัล-กัสซามมุ่งเป้าไปที่รถถังเมอร์คาวา ๒ คันด้วยกระสุนอัล-ยัสซิน 105 ทางตะวันตกของเมืองคาน ยูนิส ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา
“กลุ่มอัล-กัสซาม ร่วมกับกลุ่มมูจาฮิดีน ได้ทิ้งระเบิดกองกำลังศัตรูทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองกาซาด้วยจรวดระยะสั้น ๑๐๗ มม.”
กลุ่มอัลกุดส์ (ญิฮาดอิสลาม)
-นักสู้ของเราได้ระเบิดรถถังเมอร์คาวาด้วยระเบิดThaqib ในบริเวณใกล้กับย่านตะวันตกของคานยูนิส
-ระดมยิงอย่างเข้มข้นไปที่ตำแหน่งของทหารศัตรูของไซออนิสต์และยานพาหนะในพื้นที่ซูดานิยา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองกาซา ด้วยการโจมตีด้วยกระสุนปืนครกหนัก จรวด Badr-1 และจรวด 107 มม.
-ล็อคเป้ากองทหารราบIOFทางตะวันตกเฉียงเหนือของ Beit Hanoun ด้วยขีปนาวุธนำวิถี 107 มม. ระเบิดยานพาหนะและทหารด้วยกระสุนปืนครกทางตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองคานยูนิส
-ร่วมมือกับกองพลน้อยอาบู อาลี มุสตาฟา เราได้ทิ้งระเบิดแนวส่งเสบียงของศัตรูตามแนวขอบด้านตะวันออกในใจกลางของฉนวนกาซาด้วยจรวดจำนวนมาก
-ที่ตั้งทางทหารอาบู ซาฟิยา ทางตะวันออกของค่ายอัล-มากาซีในฉนวนกาซาตอนกลางด้วยกระสุนปืนครก ”
ฮิซบุลเลาะห์
-๑๐.๐๐ น. ของวันพฤหัสบดีที่ 25/01/2024 ได้กำหนดเป้าหมายไปยังไซต์เรดาร์ในพื้นที่ที่ถูกยึดครอง ฟาร์ม Lebanese Shebaa พร้อมอาวุธจรวด ประสบความสำเร็จในการโจมตีโดยตรง
-๑๑.๐๐ น. มุ่งเป้าไปที่พื้นที่ Jal Al-Alam ด้วยอาวุธจรวด และประสบความสำเร็จในการโจมตีโดยตรง
-๑๑.๒๐ น. ทำการโจมตีทางอากาศด้วยโดรนโจมตี ๒ ลำบนหนึ่งในจุดของระบบป้องกันทางอากาศและชานชาลาไอออนโดมใกล้กับนิคมคฟาร์บลัม บรรลุผลโดยตรง”
สถานการณ์ในสนามรบสำหรับอิสราเอลเรียกว่าแพ้กลุ่มResistanceในกาซา เพราะสู้แบบประชิดตัวไม่ได้ เลยยึดพื้นที่ไม่ได้เลย ต้องหันมาใช้ลูกยาวถล่มชาวบ้านอีก ขนาดนี้อิสราเอลยังแข็งกร้าว เจรจาก็เอาแต่เงื่อนไขตัวเองเป็นใหญ่ เสียงต่อต้านจากประชาชนก็มากขึ้นเมื่อรมว.สงครามของอิสราเอลออกมาแย้มว่า อาจไม่สามารถนำตัวประกันกลับมาบ้านได้ และให้สัมภาษณ์รุนแรงที่จะทำลายล้างปาเลสไตน์โดยไม่หวั่นว่าจะเป็นหลักฐานมัดตัวมุ่งเป้าล้างเผ่าพันธ์ ซ้ำยังประกาศอีกว่าพร้อมทำศึกกับเลบานอนในไม่ช้า
อาจเป็นเพราะคึกว่าสหรัฐฯอังกกฤษและตะวันตกจะพากันย่างเท้าเข้ามาในตะวันออกกลางแล้วก็ได้ เป้าหมายคือปราบResistanceในคราวเดียวทุกจุดให้ราบเป็นหน้ากลาง เพื่อบรรลุเป้าหมาย The Great Israel ในที่สุด นี่อาจเป็นความคาดหวังและการประเมินฝ่ายเดียวของฝั่งมหาอำนาจเดี่ยว แต่การเคลื่อนไหวของฝ่ายมหาอำนาจหลายขั้วในช่วงนี้ไม่อาจมองข้ามได้ แม้พยายามดึงรั้งให้ศึกใหญ่ไม่เกิดขึ้น แต่สถานการณ์ตรงหน้าไม่อำนาย ศึกครั้งนี้ไม่ได้ชี้ชะตาเฉพาะอิสราเอลกับปาเลสไตน์ แต่อาจหมายถึงชะตารวมของภูมิภาคตะวันออกกลางว่า จะตกเป็นเมืองขึ้นของนักล่าอาณานิคมยุคใหม่หรือ เป็นอิสราะอย่างแท้จริง งานนี้จะได้เห็นการงัดข้อกันของฝั่งมหาอำนาจเดี่ยวและมหาอำนาจหลายขั้ว ซึ่งผู้ที่ต่อสู้ด้วยความถูกต้องชอบธรรมเท่านั้นจะได้รับชัยชนะในที่สุด!!