ฮืออาเชียวเมื่อคณะอันซาอัลเลาะห์แห่งเยเมนยกทีมไปเยือนมอสโกว์ท่ามกลางสถานการณ์สู้รบดุเดือนทั้งในกาซา และทะเลแดงโดยเฉพาะทะเลแดงที่สหรัฐฯและอังกฤษออกมาเป็นกองหน้าถล่มโจมตีเยเมน อ้างทำลายเฉพาะกลุ่มฮูตี ขณะเดียวกันทางการเยเมนได้ยื่นหนังสือขับไล่อุปทูต US-UK ให้ออกจากประเทศภายใน ๓๐ วัน เรียกว่าแตกหักตัดขาดกันชัดๆไปเลย
นอกจากนี้เลบานอนออกปากขอให้รัสเซียเข้ามามีบทบาทคลี่คลายปัญหาในตะวันออกกลางมากขึ้นหลังปักหลักช่วยซีเรียยันกับสหรัฐฯ-อิสราเอลมาหลายปี
วันที่ ๒๖ ม.ค.๒๕๖๗ สำนักข่าวอัลมายาดีนและรัสเซียทูเดย์รายงานว่า คณะผู้แทนเยเมนหารือกับทูตพิเศษของประธานาธิบดีรัสเซียประจำตะวันออกกลางเกี่ยวกับการพัฒนาในทะเลแดงท่ามกลางความขัดแย้งของสหรัฐฯ
คณะผู้แทนจากขบวนการอันซาร์อัลเลาะห์เยเมน นำโดยโมฮัมหมัด อับดุล ซาลาม โฆษกพรรค เยือนรัสเซียเมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อหารือเกี่ยวกับการพัฒนาภูมิภาคในปัจจุบัน ท่ามกลางสงครามที่อิสราเอลทำในฉนวนกาซาที่กำลังดำเนินอยู่ และการเพิ่มความรุนแรงทางทหารในทะเลแดง
ในโพสต์บน X/Twitter อับดุล ซาลามเปิดเผยว่ามีการประชุมที่กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับมิคาอิล บ็อกดานอฟ ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีรัสเซียสำหรับกิจการตะวันออกกลางและแอฟริกา และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงต่างประเทศรัสเซียระบุในแถลงการณ์ว่าทั้งสองฝ่ายประณามการโจมตีเยเมนที่ดำเนินการโดยสหรัฐฯ และอังกฤษ
อับดุล-ซาลาม กล่าวว่าการเจรจามุ่งเน้นไปที่การล้างเผ่าพันธุ์ชาวอิสราเอลในฉนวนกาซาที่กำลังดำเนินอยู่ เช่นเดียวกับความจำเป็นในการยกระดับความพยายามระหว่างประเทศในการกดดันวอชิงตันและ “อิสราเอล” ให้หยุดสงคราม
นอกจากนี้ โฆษกยังยืนยันต่อการตัดสินใจอย่างแน่วแน่ของบ็อกดานอฟ ซานา ที่จะดำเนินการสนับสนุนฉนวนกาซา
เขากล่าวว่า “จุดยืนของซานาในการสนับสนุนฉนวนกาซา และการรุกรานที่ดำเนินการโดยชาวอเมริกันและอังกฤษต่อเยเมนเพื่อสนับสนุนอิสราเอล ได้รับการชี้แจงแล้ว” “เป็นการเหมาะสมกว่าสำหรับสหรัฐฯ ที่จะหยุดยั้ง การรุกรานฉนวนกาซา และยอมให้มีการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้ามา แทนที่จะเสริมกำลังทหารในทะเลแดง”
สุดท้ายนี้ อับดุล ซาลาม กล่าวว่าการเจรจาดังกล่าวได้สัมผัสกับพัฒนาการล่าสุดใน ” การเจรจาและการหารือกับราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ซึ่งดำเนินการโดยสุลต่านโอมาน ประเทศที่เป็นมิตร ซึ่งเป็นสื่อกลางเกี่ยวกับกระบวนการทางการเมืองของเยเมน”
โมฮัมหมัด อาลี อัล-ฮูตี สมาชิกสภาการเมืองสูงสุดในซานา แสดงความคิดเห็นก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการโจมตีเยเมนของสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร โดยระบุว่าการรุกรานดังกล่าวเป็น “ความพยายามครั้งใหม่ในการขัดขวางเยเมนจากการสนับสนุนฉนวนกาซา” วอชิงตัน “ไม่สนใจเกี่ยวกับภัยคุกคามต่อการเดินเรือระหว่างประเทศ และข้อเท็จจริงที่ว่ามันได้เปลี่ยนทะเลแดงให้กลายเป็นสนามรบหรือไม่สนใจเกี่ยวกับการมาถึงของอาหารและยาแก่ผู้คนในกาซา”
เขาเน้นย้ำว่าเป้าหมายของตะวันตกในการหยุดปฏิบัติการทางทะเลของเยเมน “จะไม่บรรลุผล” โดยเน้นว่า “ชาวอเมริกันและอังกฤษควรเข้าใจว่าเราอยู่ในยุคที่เราจะตอบสนองต่อการโจมตี และประชาชนของเราไม่รู้จักการยอมแพ้”
ทางด้านจีน สื่อตะวันตกพยายามวาดภาพว่าจีนวางเฉยต่อเยเมนและค่อนข้างเอียงไปทางคัดค้าน แต่ผู้แทนทางการทูตระดับสูงกล่าวชัดเจนว่าการโจมตีของสหรัฐฯ-สหราชอาณาจักรต่อเยเมนทำให้เกิดความตึงเครียดและคุกคามความปลอดภัยของเรือ น้ำเสียงเดียวกับซาอุดีอาระเบียที่แถมด้วยว่า ขอให้สหรัฐฯและสหราชอาณาจักรใช้ความยับยั้งชั่งใจ เพื่อไม่ขยายความขัดแย้งให้บานปลายใหญ่โต ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ รมว.ต่างประเทศเซอร์เก ลาฟรอฟก็ได้พบหารือนอกรอบกับเลบานอน-อิหร่านและตุรกีที่นิวยอร์กซึ่งกำลังอยู่ระหว่างสมัยประชุมUNSC เลบานอนเอ่ยปากขอให้รัสเซียเข้ามามีบทบาทคลี่คลายปัญหาในตะวันออกกลางด้วย
ขอสังเกตุคือช่วงนี้แกนนำมหาอำนาจโลกหลายขั้วขยับแรงและเข้าใกล้มามีบทบาทในสถานการณ์ร้อนปัจจุบันมากขึ้นทั้งรัสเซีย-จีน-อิหร่าน ในขณะที่Resistance ทุกสายทั้งภาคพื้นดินและทางทะเล รุกอย่างดุดันในแนวหน้าทุกพื้นที่!!
