ตาต่อตา!! อัลกัสซามเขย่าขวัญ IOFดับรวดเดียว ๒๔ เนทันยาฮู-ทีมทหารครวญภัยพิบัติครั้งใหญ่

0

อิสราเอลเสียขวัญครั้งใหญ่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดนชำระบัญชีไปวันจันทร์วันเดียว ๒๔ รายในการสู้รบดุเดือดเมืองสำคัญในกาซา

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลให้คำมั่นเมื่อวันอังคารว่าจะแก้แค้นกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์อย่างแน่นอน หลังจากที่กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) สูญเสียทหารไป ๒๔ นายในฉนวนกาซา ซึ่งถือเป็นยอดผู้เสียชีวิตสูงสุดในวันเดียวนับตั้งแต่สงครามกับกลุ่มฮามาสเริ่มขึ้นในเดือนตุลาคม

IDF ระบุเมื่อวันอังคารว่าสมาชิก ๒๑ คนถูกสังหารใกล้เมืองข่าน ยูนิสเมื่อวันก่อน เมื่อนักรบฮามาสยิงขีปนาวุธต่อต้านรถถังใส่พวกเขา แรงระเบิดที่เกิดขึ้นทำให้เกิดการระเบิดที่ทำให้อาคาร ๒ หลังพังทลายลง ขณะที่ทหารอิสราเอลจำนวนมากอยู่ภายในอาคารและบริเวณใกล้เคียง

ผลจากการสูญเสียครั้งนี้ที่ปิดบังไม่ได้ ยิ่งถูกกดดันจากการชุมนุมต่อต้านของชาวอิสราเอลซ้ำเข้าไปอีก เรียกร้องให้เจรจาแลกตัวประกัน เรียกร้องให้เนทันยาฮูลาออก งานนี้เปิดศึกหลายด้านเอง ศึกในก็ยิ่งร้อนระอุ

วันที่ ๒๔ ม.ค.๒๕๖๗ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และอัลมายาดีน, อัลจาซีรารายงานว่ากลุ่มอัล-กัสซามของฮามาสได้เผยแพร่คลิปปฏิบัติการเขย่าขวัญ ‘อิสราเอล’ ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ตอกย้ำความพ่ายแพ้และการสูญเสียของกองกำลังทหารIDF

โฆษกกองทัพยึดครองอิสราเอลปรากฏตัวในการออกอากาศทางโทรทัศน์เมื่อวันอังคาร และเปิดเผยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นใกล้กับคิบบุตซ์ คิสซูฟิม ตรงข้ามกับค่ายผู้ลี้ภัยและเมืองต่างๆ ในฉนวนกาซาตอนกลาง

เขากล่าวว่ากองกำลังกำลังปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ห่างจากรั้วกั้นแยกเพียง ๖๐๐ เมตร และถูกสังหารขณะเตรียมรื้อถอนบ้านชาวปาเลสไตน์หลายหลังเพื่อสร้าง “เขตกันชน”

อัล-กัสซัมเปิดเผยว่านักรบของตนได้กำหนดเป้าหมายอาคารในค่ายผู้ลี้ภัยอัลมากาซี ซึ่งหน่วยวิศวกรรมของอิสราเอลได้เสริมกำลังไว้ ส่งผลให้เกิดการระเบิดของกระสุนอัลยัลซิน-๑๐๕ ที่ล็อคเป้ารถถังเมอร์คาวาและวัตถุระเบิด นำไปสู่การพังทลายลงเหนือกองกำลังประจำการอยู่ข้างในโดยสิ้นเชิง 

สถานที่แห่งนี้เป็นค่ายอพยพซึ่งIDF ได้เคยสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์กว่า ๗๐ รายเมื่อปลายเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา และใช้เป็นฐานรวมกำลังพล จนวันนี้ถูกชำระบัญชีไปแบบต่างตอบแทน

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล, ประธานาธิบดีไอแซค เฮอร์ซ็อก ของอิสราเอล, รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคง ยูอาฟ กัลลันท์, รัฐมนตรีตำรวจ อิตามาร์ เบน-เกวีร์ และผู้นำฝ่ายค้าน ยาอีร์ ลาปิด และนาฟตาลี เบนเน็ตต์ เป็นหนึ่งในผู้ที่แสดงความคิดเห็นอย่างรวดเร็วเกี่ยวกับอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เน้นย้ำถึงขีดความสามารถของกลุ่มต่อต้านปาเลสไตน์

ประธานาธิบดีไอแซค เฮอร์ซ็อก โพสต์บน X “เช้าวันที่ยากลำบากเหลือทน ซึ่งมีการเพิ่มชื่อของลูกชายที่ดีที่สุดของเรามากขึ้นเรื่อยๆ บนหลุมศพของวีรบุรุษ ในสงครามที่ไร้ความยุติธรรม” จริงทีเดียวที่เป็นสงครามที่ไร้ความยุติธรรมเพราะอิสราเอลกระทำกับเจ้าของบ้านชาวปาเลสไตน์ที่มาขออาศัยกว่า ๗๕ ปีจนแข็งแรงพอที่จะขับไล่เจ้าของบ้านให้ออกไปเป็นผู้อพยพแทนอย่างโหดเหี้ยม สอดคล้องกับสุภาษิตไทยที่ว่า “ชาวนากับงูเห่า”ไม่ผิดเลย

Gallant อธิบายเมื่อเช้าวันอังคารว่า “ยากลำบากและเจ็บปวด” โดยเน้นว่าการต่อสู้น้ำท่วมอัลอักซอที่กำลังดำเนินอยู่ “จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของอิสราเอลในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า” เจ้าหน้าที่รายนี้อ้างว่าเหตุการณ์ล่าสุดจะบีบให้ทางการ “บรรลุผลสำเร็จ” เป้าหมาย” ของสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา

ลาปิด ผู้นำฝ่ายค้านกล่าวว่าเป็น “ความยากลำบากเหลือทน” ในขณะที่แกนต์ซ ผู้นำฝ่ายค้านและคณะรัฐมนตรีสงคราม เตือนผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอิสราเอลถึง “ราคาหนัก” ว่าพวกเขา “ถูกบังคับให้ต้องจ่าย” สำหรับสิ่งที่เขาอ้างว่ามันเป็น “เพียงแค่สงครามที่พยายามบรรลุ “เป้าหมายอันสูงส่ง”ของพวกเขา 

นั่นคงหมายถึง”The Great Israel”ที่เนทันยาฮูย้ำอยู่เสมอ แต่เป็นเป้าหมายที่ต้องแลกด้วยเลือดเนื้อของชาวปาเลสไตน์มันจะสูงส่งตรงไหน เมื่ออยู่บนรากฐานของความไร้มนุษยธรรมและการเหยียดเพื่อนมนุษย์ เมื่อไม่เป็นธรรมการสนับสนุนจากนานาชาติทั่วโลกก็ลดลง คงเหลือแต่สปอนเซอร์หลักอย่างสหรัฐฯและพวกที่จ้องก่อสงครามใหญ่ล้างหนี้อยู่แล้ว ปฏิบัติการล่าสุดนี้ได้ปลุกขวัญกำลังใจนักสู้Resistanceในทุกพื้นที่อย่างยิ่ง ในขณะเดียวกันก็ข่มขวัญให้ทหารของอิสราเอลหดเหี่ยวหนักขึ้นอีก นับจากนี้การรุกรบเผชิญหน้าระหว่างอิสราเอลกับพันธมิตรต่อต้านในกาซาจะเข้มข้นยิ่งขึ้น ในเวลาเดียวกันศึกรอบบ้านจะปะทุกินพื้นที่เพิ่มขึ้นจากเลบานอน ซีเรีย อิรัก ศึกครั้งนี้ชี้ชะตาภูมิภาคตะวันออกกลางว่าจะเป็นอิสระจากการครอบงำของนักล่าอาณานิคมใหม่ สหรัฐฯและพวกพ้องได้หรือไม่ เมื่อโลกมุสลิมและอาหรับกลับมาเป็นหนึ่งเดียวอย่างแท้จริง!!