จากที่มีรายงานถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซบเซาในเยอรมนี ส่งผลให้เกษตรกรประกาศจัดม็อบครั้งใหญ่ชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อนในวันที่ 8 มกราคม 2567 โดยสมาคมเกษตรกรหลายแห่ง สหภาพคนขับรถไฟ และอุตสาหกรรมรถบรรทุกระดมม็อบมาร่วม
ทั้งนี้เพื่อต่อต้านแผนของรัฐบาลกลางที่จะยกเลิกการใช้น้ำมันดีเซลเพื่อการเกษตร ลดการยกเว้นภาษีรถยนต์ เพิ่มค่าผ่านทางรถบรรทุก เพิ่มภาษีคาร์บอน ชาวเยอรมันยังสร้างกระแสโซเชียลมีเดีย ให้หยุดงานชัทดาวน์รัฐบาล ไปจนกระทั่งให้ลาออกจากงาน
คาดว่าภาคแรงงานจะทำให้ระบบเศรษฐกิจเยอรมนีถูกชัตดาวน์นิ่งเป็นอัมพาตอย่างสมบูรณ์ อันจะส่งผล กระทบเป็นโดมิโน ไปยังชาติต่างๆ ของสหภาพยุโรปด้วย
ล่าสุดวันที่ 23 มกราคม 2567 Blockdit World Update โพสต์ข้อความเปิดเผยถึงสถานการณ์การชุมนุมที่ลุกลามจากเยอรมันมาถึงชาติยักษ์ใหญ่ยุโรปว่า
ภายหลังฝรั่งเศส ขาใหญ่ฝ่ายสัมพันธมิตร NATO ตกหล่มสงครามยูเครน เศรษฐกิจพังวินาศ เกิดการจลาจลเผาบ้านเผาเมืองหลายครั้ง นายกรัฐมนตรีคนเดิม ทนแรงกดดันไม่ไหวยื่นหนังสือลาออก เปลี่ยนเป็นนายกรัฐมนตรีกาเบรียล แอตทาล ชายอายุน้อยวัย 34 ปี ไม่มีประสบการณ์ใด
เขาได้แต่งตั้งสเตฟาน เซฌูร์เน อดีตสามี ชายของเขาที่เลิกรากันเมื่อปีที่แล้ว เป็นรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ จากประวัติเขาไม่เคยทำงานด้านการต่างประเทศเลยสักวันเดียว เขาเป็นที่ปรึกษาทางการเมืองของประธานาธิบดีมาครง จากนั้นเป็นสมาชิกรัฐสภายุโรป
ล่าสุดเกษตรกรชาวฝรั่งเศส เลียนแบบเกษตรเยอรมนี ก่อม็อบปิดทางหลวงและปั๊มน้ำมันใน Tarn เพื่อประท้วงการขึ้นภาษีน้ำมันและต้องการให้มีการแข่งขันนำเข้าสินค้าราคาถูก ถนนหลายสายถูกปิดกั้นอย่างสมบูรณ์ด้วยเศษหินและดิน
สหภาพเกษตรกรรมที่ใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส ประกาศว่ามาตรการปิดกั้นการจราจรบนถนนสายหลักของประเทศ จะดำเนินไปตลอดทั้งสัปดาห์ และจะปิดถนนให้นานเท่าที่เป็นไปได้
Péter Szijjártó รัฐมนตรีต่างประเทศฮังการี ยืนว่า ประเทศของตนขัดขวางไม่ยินยอมจะมอบเงินจำนวน 5,000 ล้านยูโร/ปี จากกองทุนพิเศษสหภาพยุโรปให้กับยูเครน เพื่อไปทำสงครามกับรัสเซีย
นายกรัฐมนตรีฟิโก สโลวาเกีย แถลงว่า ยูเครนไม่ใช่ประเทศที่มีอธิปไตย ถูกควบคุมโดยสหรัฐ ดังนั้นรัฐบาลเขาจะขัดขวางความพยายามของสหภาพยุโรป ที่จะเพิกถอนสิทธิในการลงคะแนนเสียงของฮังการี
สนับสนุนการยกดินแดนไครเมียและดอนบาส ให้รัสเซีย ให้ยูเครนลืมการเข้าร่วม NATO ไปได้เลย ประตูปิดแล้ว , กระทรวงวัฒนธรรม ยกเลิกการห้ามความร่วมมือทางวัฒนธรรมกับรัสเซียและเบลารุส
นายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทัสค์ ผู้นำโปแลนด์คนใหม่ ที่ชนะเลือกตั้งคว่ำรัฐบาลเดิมด้วยนโยบาย ลอยแพยูเครน เขาเดินทางโดยรถไฟไปกรุงเคียฟ ประกาศจะสร้างโรงงานผลิตอาวุธในดินแดนของทั้งโปแลนด์ และยูเครน แสดงว่าอาวุธเทพที่มาจาก NATO จบลงแล้ว เมื่อโรงงานสร้างเสร็จขีปนาวุธรัสเซียจะลงมาทำลายทิ้งทันที
ประธานาธิบดีเซเลนสกี ผู้นำยูเครน ประกาศว่าจะออกกฎหมายให้พลเมืองทั่วโลกและลูกหลานสามารถขอสัญชาติ และหนังสือเดินทางยูเครนได้ ยกเว้นรัสเซีย คาดว่าเพื่อระดมชาวต่างชาติเหล่านั้นมาทดแทนทหารยูเครนที่หมดสต็อค
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำกรุงมอสโกไปพบ และแจ้งให้ทราบเป็นทางการว่า กองทัพฯได้ทำการสังหารทหารรับจ้าง NATO ชาวฝรั่งเศส 60 ราย ด้วยขีปนาวุธในเมืองคาร์คีฟยูเครนเป็นการประจานให้โลกรู้
ฝ่ายรัสเซีย ได้ระดมนักรบเชเชน มาเพิ่มในแนวชายแดนเพิ่มจำนวนขึ้นตลอดเวลา และทหารอดีตชาวยูเครนแปลงสัญชาติเป็นรัสเซีย ยึดเมืองในแคว้นคาร์คิฟได้เพิ่มอีก พร้อมกองทัพเปิดตัวระบบขีปนาวุธ Redut (Shaddock) ขนาด 4 ตัน ทุกสิ่งในยูเครนกำลังบิน ระเหยในอากาศ
Cr.https://www.blockdit.com/world.update
Cr.https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454