เดือดคลั่กแล้วสมรภูมิทางทะเล จากทะเลแดงลามอ่าวเอเดน อ่าวอาหรับแล้ว เมื่อสหรัฐฯ-สหราชอาณาจักร ระดมยุโรปมาร่วมรุมเยเมน เรียกปฏิบัติการภารกิจเยเมน ส่อผุดสงครามใหญ่ในภูมิภาคตะวันออกกลางภายใต้หน้ากากปกป้องเสรีภาพในการเดินเรือ
มาดูว่าUS-UKทำอะไรบ้างรายงานโดยรัสเซียทูเดย์และรอยเตอร์ เครื่องบินทิ้งระเบิดอเมริกันโจมตีฐานทัพในเยเมนอีกครั้งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เปิดเผยโดย กองบัญชาการกลางสหรัฐฯ (CENTCOM) ระบุว่านี่เป็นครั้งที่สองที่มือระเบิดของอังกฤษเข้าร่วมปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันได้รับฉายาว่า ‘โพไซดอน อาร์เชอร์’
เครื่องบินไอพ่นของกองทัพอากาศ (RAF) ซึ่งมีฐานอยู่ในไซปรัสมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีเมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม ขณะที่สหรัฐฯ ใช้ขีปนาวุธร่อนและเครื่องบินจากเรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส ไอเซนฮาวร์ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สหรัฐฯ ยังได้โจมตีอีก ๖ ครั้งด้วยตัวของมันเอง โดยมีรายงานว่ามุ่งเป้าไปที่ขีปนาวุธฮูตีขณะที่พวกเขากำลังเตรียมยิง ไม่มีรายงานความเสียหายที่ชัดเจน
สื่อกล่าวว่ากองกำลังสหรัฐฯ และอังกฤษ“ทำการโจมตีเป้าหมายฮูตี ๘ เป้าหมาย”ในเยเมนก่อนเที่ยงคืนของวันจันทร์ (๑๓)ที่ผ่านมา CENTCOM กล่าวใน Xว่า “เป้าหมายดังกล่าวรวมถึงระบบขีปนาวุธและเครื่องยิง ระบบป้องกันภัยทางอากาศ เรดาร์ และสถานที่จัดเก็บอาวุธที่ถูกฝังลึก”
ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ ซีเอ็นเอ็นรายงานว่าเพนตากอนตั้งชื่อภารกิจโจมตีว่า “ปฏิบัติการเนปจูนอาร์เชอร์” ซึ่งบ่งบอกถึงความมุ่งมั่นระยะยาวของสหรัฐฯ ที่จะทิ้งระเบิดกลุ่มฮูตี หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าวัตถุประสงค์ของสหรัฐฯ คือการ“ลดระดับและทำลายขีดความสามารถของพวกเขา”โดยอ้างถึงเจ้าหน้าที่ที่ไม่ประสงค์ออกนาม
ข้อสังเกตุคือแอ็คชั่นแบบเดียวกันเปี๊ยบเลยกับอิสราเอล บอกว่ามุ่งทำลายกลุ่มฮูตีแต่ถล่มบ้านเมืองเขาไม่เลือก เหมือนอิสราเอลบอกมุ่งทำลายฮามาสแต่ล้างเผ่าพันธ์พลเรือนปาเลสไตน์ ข่าวในสื่อตะวันตกจะบอกว่ามุ่งเป้าทำลายกลุ่มกบฎฮูตี ไม่พูดชัดว่าถล่มประเทศเยเมน สังหารประชาชนเยเมน อ้างแต่ว่าทำลายฐานทหารและที่เก็บอาวุธฮูตี พยายามเอามือปิดฟ้าปิดอย่างไรก็ไม่มิด
แต่ผลคือผู้นำเยเมนออกมาเน้นย้ำว่าเป้าหมายของกลุ่มพันธมิตรสหรัฐฯ-สหราชอาณาจักรในการหยุดยั้งเยเมนจากปฏิบัติการทางเรือที่กำลังดำเนินอยู่ “จะไม่บรรลุผลสำเร็จ” เจ้าหน้าที่เยเมนให้คำมั่นจะโจมตีอิสราเอลและพวกต่อไปไม่รามือ
วันที่ ๒๓ ม.ค.๒๕๖๗ สำนักข่าวอัลมายาดีนและรัสเซียทูเดย์รายงานว่า มูฮัมหมัด อัล-บักไฮตี(Mohammad al-Bukhaiti) ซึ่งเป็นสมาชิกของสำนักการเมืองขบวนการอันซาร์ อัลเลาะห์ (Ansar Allah Movement) ประกาศว่า ไม่ว่าระเบิดจะมีขนาดเท่าใดก็ตาม “ปฏิบัติการทางทหารของเราต่ออิสราเอลจะดำเนินต่อไปจนกว่าอาชญากรรมการล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซาจะสิ้นสุดลง”
ในทำนองเดียวกัน อับดุล เราะห์มาน อัล-อาห์นีนี ผู้อำนวยการใหญ่ของบริษัทวิทยุและโทรทัศน์แห่งรัฐเยเมน กล่าวว่า “ชาวอเมริกันต้องการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของตน ซึ่งพังทลายลงหลังจากเรือทหารของพวกเขาตกเป็นเป้าหมาย”
ด้านผลงานกระแทกใจสหรัฐฯและพวกคือการโจมตีเรือคาร์โกขนทหารและวัสดุทางทหารของสหรัฐฯในอ่าวเอเดน ชื่อว่า Ocean Jazz
โฆษกกองทัพเยเมน พลจัตวา ยะห์ยา ซารี ประกาศว่า กองทัพเรือได้ปฏิบัติการทางทหารในระหว่างนั้น ได้ยิงขีปนาวุธใส่เรือขนส่งสินค้าทหารอเมริกัน โอเชียน แจ๊ส ในอ่าวเอเดน สารีประกาศย้ำว่าปฏิบัติการนี้เป็นการสนับสนุนการต่อต้านของชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา และเพื่อตอบโต้การรุกรานของอิสราเอลที่ยึดครองต่อพลเรือน
เขาย้ำว่าสการรุกรานอย่างต่อเนื่องของสหรัฐฯ และอังกฤษต่อเยเมน ควบคู่ไปกับการเสริมกำลังทหารในทะเลแดงและบับ อัล-มันดับ การกระทำเหล่านี้ก่อให้เกิด “ภัยคุกคามที่แท้จริงและร้ายแรงต่อการเดินเรือระหว่างประเทศ”อย่างแท้จริง
เพื่อตอบสนองต่อความก้าวร้าวของตะวันตก ชายชาวเยเมนนับล้านได้ออกมาเดินขบวนบนท้องถนนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ในเมืองหลวงซานา ผู้ที่เข้าร่วมในการประท้วงชูป้ายประกาศว่า “ มั่นคงกับปาเลสไตน์ สหรัฐฯคือมารดาแห่งการก่อการร้าย” ย้ำการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์และประณามการรุกรานเยเมนของสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร
สหรัฐฯและสหราชอาณาจักรร่วมกันโจมตีประเทศเยเมนอย่างดุร้ายหวังกำหราบเยเมนและข่มขู่ประเทศมุสลิมอื่นๆที่คิดจะเข้ามาช่วยเยเมนไปในตัว ขณะที่ยุโรปกำลังหัวทิ่มกับสภาพเศรษฐกิจการเมืองในประเทศ ก็กลับมีมติให้เข้าร่วมปราบเยเมนด้วย มันบ่งบอกถึงเนื้อแท้ของกลุ่มประเทศที่โปรโมทเสมอว่า พวกตนคือผู้พิทักษ์เสรีภาพ ประชาธิปไตยและความถูกต้อง แต่พฤติกรรมแก้ปัญหาทุกอย่างใช้ทหารนำหน้าเพราะถือว่ามีอาวุธเหนือกว่ามีพวกมากกว่า มาตรฐานตะวันตกเท่านั้นเป็นความถูกต้องชอบธรรมนอกเหนือจากนี้หากไม่ยอมสิโรราบคือผิด
สงครามการเผชิญหน้ากำลังยกระดับขึ้นอย่างชัดเจนทั้งในสมรภูมิภาคพื้นดิน ใจกลางคืออิสราเอลและปาเลสไตน์ ลามมาถึงเยเมนในสมรภูมิทางทะเลและกำลังรุกคืบสู่ภาคพื้นดิน ทั่วโลกกำลังจับตา การเคลื่อนไหวตอบโต้ของเยเมนและพันธมิตร ซึ่งแน่ใจได้ว่าไม่ปล่อยให้เยเมนสู้อย่างโดดเดี่ยว แต่สถานการณ์นี้กำลังก่อแรงกระเพื่อมซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจของโลก เพราะเส้นทางเหล่านี้คือเส้นทางขนส่งสินค้าและน้ำมัน อาการหน้ามืดของสหรัฐฯกำลังลากคนทั้งโลกเผชิญสึนามิเศรษฐกิจอย่างยากจะคาดเดาผลกระทบว่าจะมากแค่ไหน ขณะที่สมรภูมิยุโรปและเอเชียแฟซิฟิกกำลังร้อนระอุ!!