คุโชน! ปะทะกันนัวชายแดนกาซา-อียิปต์ หลังเนทันยาฮูเปิดแนวรบใหม่ สั่งยึดฟิลาเดลฟี่ เมินไคโรกริ้ว

0

อดีตนายพลอิสราออกมาเตือนรัฐบาลเนทันยาฮูว่าหน่วยงานยึดครองของอิสราเอลหรือIOF ควรแลกเปลี่ยนเชลยศึกกับกลุ่มฮามาส เพื่อ “ไม่ปล่อยให้มือเปล่า” และต้องชดใช้ราคาอันแสนสาหัสสำหรับความล้มเหลวในสงครามครั้งนี้

เขาประเมินว่าอิสราเอลจะไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์หลักในการทำสงครามในการยุติกลุ่มฮามาสและใช้ความสามารถทางการเมืองและการทหารของตนนำตัวเชลยกลับมาได้ ความล้มเหลวนี้จะส่งผลกระทบต่อหน่วยงานยึดครองต้องจ่ายราคาหนักมาก

คำเตือนนี้ไร้ความหมายสำหรับเนทันยาฮูและคณะรัฐมนตรีกระทรวงสงครามของเขา เปิดศึกเดือดที่ชายแดนกาซา-อียิปต์คิดหวังยึดแดนต่อขยายปิดประตูทำลายฮามาส ไม่สนว่าเป็นดินแดนอียิปต์ กร่างขนาดไหนดูเอา

วันที่ ๑๘ ม.ค.๒๕๖๗ สำนักข่าวอัลมายาดีนเปิดเผยว่า ในรายงานของสื่ออิสราเอลฮาเรตซ์ (Haaretz)อดีตนายพลสำรองอิสราเอล อิตชัค บริค (Itzhak Brik) กล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า “สงครามในฉนวนกาซาในระยะที่กำลังจะมาถึงจะเป็นเรื่องยากมากสำหรับ “อิสราเอล” เนื่องจากจะต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายประการที่ยังไม่มีวิธีแก้ปัญหาจนถึงขณะนี้”

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าทางเลือกในการโจมตีเพื่อแยกฉนวนกาซาออกจากอียิปต์กำลังอยู่บนโต๊ะพิจารา แผนทางทหารมีเป้าหมายที่จะยึดครองเส้นทางฟิลาเดลฟี หรือทางเดินซึ่งเป็นภูมิภาคที่ขยายระหว่างชายแดนกาซา-อียิปต์ ซึ่งมีเมืองราฟาห์เป็นศูนย์กลาง เพื่อปิดกั้นอุโมงค์และเส้นทางของกลุ่มต่อต้าน

สื่อของอิสราเอลรายงานว่า เป็นไปไม่ได้ที่กองกำลังยึดครองของอิสราเอลจะต่อสู้ภายในค่ายผู้ลี้ภัยราฟาห์ที่มีประชากรหนาแน่น เนื่องจากการโจมตีภาคพื้นดินดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายพลเรือนสูง ซึ่งทั้งหน่วยงานและสหรัฐอเมริกาไม่สามารถรับมือได้ 

สิ่งนี้เกิดขึ้นในขณะที่แรงกดดันจากประชาชนทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องต่ออิสราเอลเกี่ยวกับพฤติกรรมการล้างเผ่าพันธุ์ที่กำลังดำเนินอยู่ในฉนวนกาซา ทั้งความโหดร้ายและการทำลายล้างอย่างที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อนในรอบหลายทศวรรษ

บริคกล่าวว่าความพยายามใดๆ “ที่จะเข้าควบคุมค่ายผู้ลี้ภัยในราฟาห์จะนำไปสู่การสังหารหมู่พลเรือน และสหรัฐอเมริกาและโลกโดยรวมจะไม่อนุญาตให้อิสราเอลทำเช่นนั้น” จากหลักฐานดังกล่าว เขาปฏิเสธเสียงแข็งว่า “อิสราเอลจะเริ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินขนาดใหญ่ในค่ายราฟาห์” เขาย้ำว่าไม่มีวิธีแก้ปัญหาสำหรับอุโมงค์ Rafah และค่าใช้จ่ายสำหรับ “อิสราเอล” จะสูงมาก

นายพลกล่าวว่า“อิสราเอลไม่มีวิธีแก้ปัญหาใด ๆ สำหรับอุโมงค์ในเส้นทางฟิลาเดลฟีในขณะนี้ เนื่องจากการปิดกั้นจำเป็นต้องสร้างกำแพงยาว ๑๓ กิโลเมตรและลึก ๔๐ เมตรภายในฉนวนกาซา และกลุ่มฮามาสจะไม่มีวันยอมให้ทำเช่นนั้น สำหรับในฝั่งอียิปต์ ในทางเทคนิคแล้ว เป็นไปได้ที่จะสร้างกำแพง แต่จนถึงขณะนี้ชาวอียิปต์ไม่เห็นด้วยกับกำแพงดังกล่าว” 

บริคกล่าวว่าเพื่อไม่ให้ “อิสราเอล” ต้องจ่ายราคาอันหนักหน่วง จะต้องเปลี่ยนกลยุทธ์และถอนตัวออกจากข่าน ยูนิส และค่ายต่างๆ ในฉนวนกาซาตอนกลางที่เสียหายหนักเพราะปะทะกันเดือน ในช่วงสงครามระยะที่ ๓

“อิสราเอลควรปิดล้อมพวกเขาจากภายนอก ปฏิบัติการอย่างแม่นยำ และแทรกซึมเข้าไปในกองกำลังฮามาสด้วยการผ่าตัดโดยใช้ข้อมูลข่าวกรอง”เขาเน้นย้ำว่าเป้าหมายสูงสุดยังคงสามารถบรรลุได้ คือการนำเชลยชาวอิสราเอลทั้งหมดกลับมาผ่านข้อตกลงกับกลุ่มต่อต้านฮามาส แม้ว่าจะต้องแลกกับการหยุดยิงในฉนวนกาซาก็ตาม เพื่อที่ “อิสราเอล” จะต้องไม่ปล่อยให้มือเปล่าก็ตาม เท่ากับล้มเหลวในการบรรลุวัตถุประสงค์ทั้งหมดที่ตั้งไว้

 

ฮาเรตซ์กล่าวในรายงานเมื่อวันอังคารว่าราคาการแลกเปลี่ยนนักโทษที่ตกลงกับกลุ่มต่อต้านปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาโดยไม่บรรลุวัตถุประสงค์ในการทำสงคราม ถือเป็นการยอมรับความล้มเหลวในนามของรัฐบาลและกองทัพและสิ่งนี้จะทำให้ข้อพิพาทภายในระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหารของอิสราเอลร้าวลึกยิ่งขึ้น

ข้อแนะนำของนายพลสำรองของอิสราเอลผู้นี้บ่งบอกชัดว่า ที่ผ่านมานั้นอิสราเอลรบแพ้ฮามาสและเครือข่ายResistance แล้ว เตือนว่าอย่ากลับมือเปล่าและอย่าคิดเปิดศึกกับอิยิปตฺ์ แต่ความจริงในพื้นที่ตรงข้าม เพราะเนทันยาฮูสั่งแล้วเคลื่อนไหวที่ราฟาห์แสดงชัดว่าต้องการยึดพื้นที่ที่มีบทบาทเหมือนบัฟเฟอร์แอเรียเพราะเป็นที่พักของผู้อพยพที่อิสราเอลพยายามเหลือเกินที่จะไล่คนปาเลสไตน์ให้ออกมาอยู่ที่นี่และจอร์แดน แต่ทั้งสองประเทศไม่เล่นด้วย และเมื่อแนวคิดนี้เผยแพร่ออกไป นานาชาติหลายประเทศออกมาส่งเสียงคัดค้านเต็มที่แม้แต่สหรัฐฯและพันธมิตรหลักเยอรมนี-อังกฤษ-ฝรั่งเศสยังออกมาค้าน มีรายงานเกิดการปะทะกันแล้วโดยกองทหารอียิปต์ไม่ยอม ผลจะเป็นอย่างไรต้องจับตา อาจเป็นเพราะว่าอิสราเอลเชื่อว่าในที่สุดอียิปต์ก็ต้องยอมเพราะสงคราม ๖ วันก็ยอมมาแล้ว นักบารอบแรกก็ยอมมาแล้ว แต่สถานการณ์วันนี้ต่างจากอดีต ยิ่งนานวันนานาชาติทั่วโลกยิ่งได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของอิสราเอล-สหรัฐฯและพวกว่าโหดร้ายเลือดเย็นแค่ไหนและทำทุกอย่างเพื่อแผนการใหญ่ของตนเองโดยไม่เคยคำนึงถึงเสรีภาพ มนุษยธรรมใดๆทั้งสิ้น!