จากสถานการณ์ในฉนวนกาซาที่ยังคงมีการสู้รบระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอล สร้างความสูญเสียให้กับทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลเรือนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งที่ต้องประสบปัญหาต่างๆตามมาอย่างมากมาย
ล่าสุดวันที่ 08 มกราคม 2567 เว็บไซต์ TOP WAR ออกมาเปิดเผยถึงท่าทีนายทหารคนสำคัญของอิสราเอลว่า เสนาธิการทหารสูงสุดของกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF) พลโทเฮอร์ซี ฮาเลวี กล่าวถึงปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซาจะดำเนินต่อไปตลอดปี 2024
“ในช่วงปี 2024 กองทัพอิสราเอลจะระมัดระวังอย่างมากในเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งยังไม่มีการสู้รบ ในเวลาเดียวกันทางตอนเหนือของประเทศ บริเวณชายแดนติดกับเลบานอน กองทัพอิสราเอลจะยังคงต่อต้านการโจมตีของขบวนการฮิซบอลเลาะห์หัวรุนแรงต่อไป การดำเนินการจะดำเนินต่อไปในฉนวนกาซา เราจะต่อสู้ในฉนวนกาซาตลอดทั้งปี” พลโทเฮอร์ซี ฮาเลวี กล่าว
ขณะเดียวกันคำแถลงของทหารระดับสูงดังกล่าวบ่งชี้ว่า แผนการโจมตีแบบสายฟ้าแลบในฉนวนกาซาไม่เป็นจริง แม้ว่ากองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล จะมีความเหนือกว่าทั้งในด้านเทคนิคการทหารและจำนวนมหาศาล แต่กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอลก็ไม่สามารถทำภารกิจทำลายล้างการก่อตัวของขบวนการฮามาสปาเลสไตน์ โครงสร้างพื้นฐานของพวกเขา และเข้าควบคุมวงล้อมปาเลสไตน์ได้สำเร็จ
“ยังไม่มีผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ แต่มีพลเรือน 23,000 คนเสียชีวิตในสามเดือน เราสามารถจินตนาการถึงจำนวนผู้เสียชีวิตในหมู่ประชากรในฉนวนกาซาได้ หากปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลดำเนินต่อไปอีก 10-12 เดือนหรือมากกว่านั้น”
ในทางกลับกัน ในช่วงปีแห่งการสู้รบในฉนวนกาซา กองทัพอิสราเอลจะสูญเสียทหารและเจ้าหน้าที่จำนวนมาก ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งนี้อาจไม่ส่งผลกระทบที่ดีที่สุดต่ออันดับเครดิตของนายกรัฐมนตรีอิสราเอลคนปัจจุบัน เบนจามิน เนทันยาฮู เนื่องจากการพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ ซึ่งไม่น่าจะได้รับการอนุมัติจากสังคมอิสราเอล
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 06 มกราคม 2567 TOP WAR ยังเผยแพร่ข้อมูลในบริเวณฉนวนกาซาด้วยว่า สถานีโทรทัศน์อัลจาซีรา รายงานถึง มาร์ติน กริฟฟิธส์ หัวหน้าฝ่ายบริการด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ ที่เปิดเผยว่า ปฏิบัติการทางทหารของกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF) ในฉนวนกาซา ซึ่งกินเวลานานถึงสามเดือน ทำให้ดินแดนปาเลสไตน์ไม่สามารถอยู่อาศัยได้
ทั้งนี้ตัวแทนขององค์กรระหว่างประเทศระบุ อาคารที่อยู่อาศัยและโครงสร้างพื้นฐานของภูมิภาคถูกทำลายเนื่องจากการสู้รบ การบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนมีมหาศาล
พลเรือนในฉนวนกาซาเป็นผู้ที่ได้รับความสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุด วิกฤตด้านมนุษยธรรมในเขตวงล้อมกำลังเลวร้ายลง มีปัญหาในการให้การรักษาพยาบาลแก่ผู้คน เกิดวงจรร้ายแรง พวกเขาถูกคุกคามด้วยความตายอันเป็นผลมาจากการสู้รบ ภาวะทุพโภชนาการ และการขาดการรักษาพยาบาลที่มีคุณสมบัติเหมาะสม
แม้จะมีปัญหาด้านมนุษยธรรมมากมาย แต่ทางการอิสราเอลก็จะไม่หยุดยั้งปฏิบัติการทางทหารในภูมิภาคนี้ IDFแสดงให้เห็นถึงความเฉยเมยอย่างสมบูรณ์ต่อปัญหาความมั่นคงของประชากรพลเรือนในฉนวนกาซา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวคิดของนโยบายรัฐบาลอิสราเอลที่มีต่อชาวปาเลสไตน์
ในเวลาเดียวกัน สหรัฐอเมริกาซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็น ฐานที่มั่นของประชาธิปไตย และ ระเบียบโลกที่อิงกฎเกณฑ์ ก็ไม่แยแสกับสิ่งที่เกิดขึ้นเท่าๆ กัน และไม่มีความพยายามใดๆ ที่จะหยุดยั้งเหตุร้ายแรงในฉนวนกาซา