จากที่มีรายงานโฆษกกองทัพฮูที เยเมน แถลงการณ์กองทัพจะร่วมต่อสู้กับชาวปาเลสไตน์ ในเขตกาซา จนกว่าจะได้รับชัยชนะเหนืออิสราเอล ขณะที่มีการยึดเรือบรรทุกคอนเทนเนอร์ 2 ลำ ที่ขนสินค้าไปส่งให้อิสราเอล
สำหรับเรือที่ถูกยึด คือ เรือ MSC Alanya และเรือ MSC Palatium III โดยเรือ 2 ลำนี้ปฏิเสธคำสั่งกองทัพเรือเยเมน จึงถูกส่งข้อความเตือน โดยกองทัพฯ ได้ยิงด้วยขีปนาวุธต่อต้านเรือ 2 ลูกใส่เรือจนเพลิงไหม้ลุกเป็นไฟตามระเบียบเหมือนทุกครั้ง
ขณะที่เว็บไซต์ TOP WAR ได้ออกมารายงานถึงกรณีดังกล่าวเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2566 โดยระบุเนื้อหาว่า บริษัทเดินเรือเชิงพาณิชย์จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ กำลังละทิ้งการเดินเรือในทะเลแดง การจราจรทางเรือผ่านคลองสุเอซ ลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
การลดลงนี้เกิน 30% ยิ่งไปกว่านั้น เรือเดินทะเลจำนวนมากที่สุดที่ปฏิเสธการเดินเรือในทะเลแดงมีความเชื่อมโยงกับการขนส่งสินค้าไปยังอิสราเอล หรือ จากอิสราเอลไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับการโจมตีเรือพาณิชย์โดยกลุ่มฮูตี
The Economist เปิดเผยไว้ว่า วิกฤตการณ์สุเอซครั้งใหม่กำลังคุกคามเศรษฐกิจโลก และวิกฤตนี้มีความเกี่ยวข้องอย่างชัดเจนกับความกลัวของเจ้าของเรือที่จะส่งเรือไปยังทะเลแดงเนื่องจากกิจกรรมทางทหารของกลุ่มเยเมน จำได้ว่ากลุ่มฮูตีได้ประกาศสงครามกับอิสราเอลเนื่องมาจากการกระทำของพวกเขาต่อปาเลสไตน์ กลุ่มนี้ยังมุ่งเป้าไปที่เรือพาณิชย์ที่บรรทุกสินค้าไปหรือกลับจากอิสราเอล
Bab el Mandeb เป็นช่องแคบแคบระหว่างแอฟริกาและคาบสมุทรอาหรับ ซึ่งโดยปกติแล้วประมาณ 12% ของการค้าโลก บางทีอาจเป็น 30% ของปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ทั่วโลกที่ผ่าน กลายเป็นเขตห้ามเข้า ในขณะที่กลุ่มฮูตีซึ่งมีฐานอยู่ในเยเมน โจมตีเรือที่ถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา เป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว แต่ตอนนี้ทุกอย่างรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ผู้ให้บริการ เช่น Maersk และ Hapag-Lloyd ได้ละทิ้งเส้นทางนี้แล้ว ตอนนี้พวกเขาเข้าร่วมโดย Palatium III และ MSC บริษัทฝ่ายบริหารกล่าวว่าพวกเขาจะกลับมาขนส่งในทะเลแดงอีกครั้ง เฉพาะเมื่อปลอดภัย แม้ว่าบริษัทดังกล่าวจะคิดเป็น 53% ของปริมาณการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมดในโลกก็ตาม ขณะนี้ ผู้ขนส่งน้ำมันและของแข็งปริมาณมากทางทะเล (เช่น ธัญพืช ถ่านหิน ฯลฯ) สามารถเข้าร่วมได้
นอกจากนี้ The Economist ยังระบุอีกว่า ตอนนี้ บริษัทต่างๆ ต้องใช้เส้นทางที่ยาวกว่ามากในการจัดทำสัญญา – ผ่านแหลม ของกู๊ดโฮป และนี่หมายถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม อาจนำไปสู่การล่มสลายของการค้าโลก
กลุ่มฮูตีมีขีปนาวุธต่อต้านเรือจำนวนมาก รวมถึงขีปนาวุธที่มีพิสัยทำการไกลถึง 800 กิโลเมตร ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ตะวันตกได้คำนวณว่าปริมาณการขนส่งทางเรือที่ลดลงหนึ่งในสามของคลองสุเอซอาจทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณ 2.5 พันล้านดอลลาร์ในเวลาเพียงวันเดียว และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครในโลกตะวันตกมีคำตอบที่ชัดเจนสำหรับคำถามว่าจะแก้ไขปัญหาทั้งหมดนี้อย่างไร
อย่างไรก็ตามในวันเดียวกัน Blockdit World Update เผยแพร่ข้อความถึง หนังสือพิมพ์ Haaretz อิสราเอล ที่รายงานโพลสำรวจความคิดเห็นพลเมือง น่าตกใจว่า ข้อมูลเกี่ยวกับสงครามกับฮามาส กับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู เชื่อถือแค่ไม่เกิน 4% ส่วนอีกกว่า 96% ไม่เชื่อถือสิ่งที่ผู้นำอิสราเอลให้ข้อมูล
กองทัพอิสราเอล ใช้เครื่องบินโปรยใบปลิว เหนือฉนวนกาซา ข้อความว่าฮามาส หมดกำลัง ขณะที่ฝ่ายฮามาส ก็ปล่อยสื่อทางโซเชียลออกมาสวนทันทีว่า นักรบของตนยังยุ่งอยู่กับ ย่างบาร์บีคิวข้าศึกในรถถังเมอร์ควา
หนังสือ Yedioth Ahronoth อิสราเอล แฉว่านายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู อ้างว่าจากภาพวิดีโอกองพันน้อยอัล กัสซัม กองทัพฮามาส เผยแพร่ทางโซเชียล ทหารอิสราเอลที่ถูกจับกุม คือพันตรีสำรอง Tomer Shlomo Meara สังกัดกองพันวิศวกรรมที่ 710 ทางการจึงประกาศเสียชีวิตแล้ว
แต่แล้วฝ่ายฮามาส ก็ทำให้ผู้นำอิราเอล หน้าแตกขาดความน่าเชื่อถือกลายเป็นตัวตลกปล่อย ข่าวลือ สู่ประชาชน โดยยืนยันว่า แค่ยึดอาวุธของเขาแต่เขาไม่ได้เป็นอะไร เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า รัฐบาลอิสราเอล ปล่อยข่าวปลอมโกหกเท่านั้น
ปัจจุบันนี้ชาวอิสราเอลจะชมวิดีโอที่กองทัพปาเลสไตน์ปล่อยภาพทางโซเชียลมีเดีย ทำลายทหารและยานรบของกองทัพ ทำให้พวกเขาหวาดวิตก ความน่าสะพรึงกลัว ชาวอิสราเอลมีความมั่นใจข้อมูลจากฮามาส มากกว่าจากกองทัพ หรือ รัฐบาล
ช่วงหลังมาสำนักข่าวทั่วโลก จึงใช้ประกาศข้อมูลจากปาเลสไตน์ เป็นแหล่งอ้างอิงภาพ และข้อมูลที่ถูกต้องกว่า การประกาศจากอิสราเอล ที่ไม่น่าเชื่อถือ เพราะไม่มีหลักฐานใดเลย
