จากการที่มีรายงานถึงการชิงเจรจาของผู้นำกองทัพยูเครนกับนายทหารใหญ่ของรัสเซีย ท่ามกลางกระแสข่าวการชิงอำนาจผู้นำประเทศจากเซเลนสกี และสหรัฐอเมริกาไม่สามารถช่วยเหลือให้การสู้รบดำเนินต่อไปได้แล้วนั้น
ทั้งนี้ความคืบหน้าในกรณีดังกล่าวถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 08 ธันวาคม 2566 โดย Blockdit World Update ได้เผยแพร่ข้อความเอาไว้ว่า หลักนิยมฝ่ายสัมพันธมิตร NATO ชาติตะวันตกนั้น เมื่อรุมทำสงครามกับชาติเป้าหมายใดจะมีการให้ร้ายป้ายสี และสร้าง โฆษณาชวนเชื่อสงคราม เพื่อบิดเบือนโลกข่าวสาร
ในสมรภูมิยูเครนนั้น ข่าวปลอมที่ถูกสร้าง เช่น หลอกชาวโลกว่า การคว่ำบาตรจะทำลายรัสเซีย , เงินรูเบิลจะกลายเป็นเศษหินและฝุ่น , ไม่มีใครซื้อน้ำมันและก๊าซจากรัสเซีย จนจบสิ้นเศรษฐกิจ , กำลังมีเปลี่ยนแปลงการปกครองในรัสเซีย
รัสเซียอาวุธหมดต้องใช้พลั่วขุดดิน และชิปเครื่องซักผ้า , ทหารไม่มีขวัญกำลังใจ , จะสนับสนุนสงครามยูเครนเป็นเวลานานถึง 15 ปี , จะต่อสู้กับรัสเซียจนถึงชาวยูเครนคนสุดท้าย
จรวด HIMARS จะเป็นตัวเปลี่ยนเกมส์ชนะรัสเซีย , รถถังเทพจะเอาชนะรัสเซีย , ขีปนาวุธใหม่ดีๆ จะเอาชนะรัสเซีย , การบุกรุกรานฤดูใบไม้ผลิจะเอาชนะรัสเซีย
ล่าสุดสภาคองเกรส สหรัฐ ถังแตกไม่อนุมัติงบประมาณเงินกู้ค่าอาวุธกับยูเครน อ้างว่าต้องใช้เงินปกป้องชายแดนแม็กซิโก ที่มีภัยคุกคาม
พล.อ.ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหม พยายามโน้มน้าวให้ประธานาธิบดีเซเลนสกี ผู้นำยูเครนปรับกลยุทธ์ทางทหารจากการบุกโจมตี เปลี่ยนเป็นการป้องกัน เพื่อประหยัดเงิน จำเป็นต้องหยุดยิง เพราะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อรัฐบาลไบเดนในการหาเสียงเลือกตั้ง
นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐบอกสหภาพยุโรป ให้หยุดพูดคุยกับยูเครนเกี่ยวกับการเข้ากลุ่ม NATO เพราะสร้างความรำคาญให้กับผู้มีอำนาจสหรัฐ และยูเครนจะไม่ได้เข้าเป็นสมาชิก NATO หลังสงคราม
นาย David Arakhamia ผู้นำรัฐสภาพรรครัฐบาลยูเครน เผยความลับว่า ปลายเดือนมีนาคม 2565 เขาพร้อมด้วยคณะผู้แทนของยูเครนเจรจาสันติภาพกับคณะของรัสเซียในกรุงอิสตันบูล ตุรกี
ยูเครน ตกลงที่จะเป็นกลางโดยไม่เข้าร่วมกับ NATO ส่วนปูติน ผู้นำรัสเซีย ก็พร้อมที่จะยุติสงคราม จึงถอนกำลังออกจากกรุงเคียฟไป รัสเซียจึงไม่ได้ถอยทัพไปเองแต่ทำตามข้อตกลงกัน
ต่อมาจากนั้นนายบอริส จอห์นสัน ขณะนั้นเป็นผู้นำอังกฤษ เดินทางด่วนไปที่ยูเครน และยุยงผู้นำยูเครนว่า เราจะไม่ลงนามอะไรกับพวกเขาเลย ต้องสู้ๆ กันต่อไป ประวัติศาสตร์วันนั้น ยูเครน ผิดพลาดที่เชื่ออังกฤษ และวันนี้ยูเครน ทำได้แค่ฝันถึงเงื่อนไขดีๆ เหล่านั้นที่รัสเซียเสนอให้
พล.อ.Zaluzhny ผู้บัญชาการทหารสูงสุดยูเครน ที่กำลังพิพาทบาดหมางชิงอำนาจกับผู้นำยูเครน ได้ต่อสายหา พล.อ.Gerasimov เสนาธิการทหารสูงสุดรัสเซียขอเจรจา โดยยูเครนยอมสละแคว้นไครเมีย และ 4 ดินแดนที่แยกเอกราชไปแล้ว
ยูเครน ขอแคว้นโอเดสซาไว้ และขอใช้ทะเลดำร่วมกับรัสเซีย โดยยูเครนจะเป็นกลางทางทหาร ส่วนสหรัฐฯจะโฆษณาชวนเชื่อว่ายูเครนไม่แพ้ เป็นผลดีสำหรับการเลือกตั้งของพรรครัฐบาลไบเดนอีกครั้ง และยังสามารถย้ายสมรภูมิไปสู้รบกับจีนที่ไต้หวัน และอาเซียนได้อีกด้วย
แต่รัสเซีย ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ เพราะยูเครน ไม่ใช่ผู้มีอำนาจติดสินใจ เพราะถ้ารัสเซียได้รับชัยชนะในยูเครน สหรัฐฯ มองว่ามีความเป็นไปได้สูงที่กองทัพตนจะเผชิญหน้าโดยตรงกับกองทัพรัสเซีย แต่น่าจะเกิดในตะวันออกกลาง
คาดว่า..สหรัฐ ไม่สามารถเข็นยูเครนไปต่อได้อีกแล้วเพราะสภาพยูเครนยามนี้โคม่าเกินเยียวยา ให้กู้เงินและอาวุธต่อไปก็สูญเปล่าไม่ได้คืน และคะแนนนิยมไบเดนดำดิ่งลงตลอดเวลา ในขณะที่คะแนนนิยมปูตินในรัสเซียพุ่งเกิน 80% มาตลอดและจะจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีวาระถัดไปวันที่ 17 มีนาคม 2567
มีหนทางเดียวคือ NATO หนุนรัฐประหาร ปลดผู้นำยูเครนคนเดิม เปลี่ยนไปเป็น ผบ.สูงสุด สานต่อการเจรจายกดินแดนให้รัสเซีย แล้วค่อยประดิษฐ์วาทะกรรมใหม่ เช่น เพื่อลดสภาวะโลกร้อน..แบบนี้ Win-Win แน่นอน
