กองทัพเยเมนประกาศกำหนดเป้าหมายเรืออิสราเอลในทะเลแดง ห้ามเข้ามาในย่านนี้โดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะชักธงอะไร ไม่เว้นทั้งเรือรบหรือเรือพาณิชย์ เป็นการขยี้ทางเศรษฐกิจทำให้อิสราเอลยากลำบากในทางการค้าและระบบขนส่งซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการทำสงคราม ล่าสุดก็ได้จัดหนักเรือรบมะกันอย่างไม่หวั่นเกรงฐานเข้ามาช่วยเรืออิสราเอล
วันที่ ๔ ธ.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวปาเลสไตน์โครนิเคิลรายงานว่า โฆษกกองทัพของกลุ่มอันซาร์อัลลอห์ นายพล ยาห์ยา ซารี กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า กองทัพเยเมนได้ปฏิบัติการโดยมุ่งเป้าไปที่เรือรบอิสราเอล ๒ ลำที่บับ อัล-มันดับ เมื่อวันอาทิตย์ ซารีกล่าวเสริมว่า กองทัพเรือของเยเมนจะยังคงมุ่งเป้าไปที่เรืออิสราเอลต่อไปจนกว่าการรุกรานฉนวนกาซาจะหยุดลง และจะป้องกันไม่ให้เรือของอิสราเอลเดินเรือต่อไปจนกว่าการรุกรานจะสิ้นสุดลง
คำแถลงของโฆษกกองทัพอันซาร์ อัลลอฮ์ ภายหลังการโจมตีเรืออิสราเอล ๒ ลำเมื่อวันอาทิตย์:
“กองทัพเรือในกองทัพเยเมนได้ปฏิบัติการกำหนดเป้าหมายเรืออิสราเอลสองลำที่บับ อัล-มันดับ (Bab Al-Mandab) ได้แก่ เรือยูนิตีเอ็กซ์พลอเรอร์ (Unity Explorer) และเรือหมายเลข9(Nine) โดยที่เรือลำแรกตกเป็นเป้าหมายด้วยขีปนาวุธทางเรือ และลำที่สองมี โดรนทางทะเล “ปฏิบัติการกำหนดเป้าหมายเกิดขึ้นหลังจากที่เรือทั้งสองลำเพิกเฉยต่อข้อความเตือนจากกองทัพเรือเยเมน”
“กองทัพเยเมนเตือนเรืออิสราเอลทุกลำหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลว่าพวกเขาจะกลายเป็นเป้าหมายที่ถูกต้องตามกฎหมาย หากพวกเขาละเมิดสิ่งที่ระบุไว้ในแถลงการณ์นี้และแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ที่ออกโดยกองทัพเยเมน”
เจ้าหน้าที่เพนตากอนบอกกับอัลจาซีราว่าขีปนาวุธและโดรนถูกยิงจากเยเมนไปยังเรือพิฆาตยูเอสเอส คาร์เนย์ (USS Carney) ของสหรัฐฯ ซึ่งพยายามช่วยเหลือเรืออิสราเอล ๒ ลำในทะเลแดง โดยอ้างว่าเรือประสบความสำเร็จในการตอบโต้โดรนและขีปนาวุธที่ปล่อยจากดินแดนที่เยเมนควบคุม
ตามรายงานของ Navy Times เรือ USS Carney ยิงโดรนที่ผลิตโดยอิหร่านตก ซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังตำแหน่งของตนจากดินแดนที่เยเมนควบคุม รายงานเสริมว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากโดรนของอิหร่านอีกลำเข้ามาภายในระยะ ๑,๕๐๐ หลาจากเรือบรรทุกเครื่องบิน ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ ขณะที่อยู่ในน่านน้ำสากลในอ่าวอาหรับ
ช่องแคบบับ อัล-มันดับ เชื่อมต่อทะเลแดงกับอ่าวเอเดน พื้นที่สำคัญสำหรับการค้าโลกที่ได้เห็นการโจมตีหลายครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกลุ่มอันซาร์ อัลลอฮ์ตอบโต้สงครามอิสราเอลในฉนวนกาซาตั้งแต่วันที่ ๗ ตุลาคม
การโจมตีโดยตรงได้รับการยืนยันตามแหล่งข่าวอื่นๆ เช่นตามรายงานของรอยเตอร์ โดรนลำหนึ่งมุ่งเป้าไปที่เรือคอนเทนเนอร์นอกชายฝั่งท่าเรือโฮไดกาห์ (Hodeidah) ของเยเมน
หนังสือพิมพ์บริติชเทเลกราฟ อ้างคำกล่าวของบริษัท ‘Ambry Maritime Security’ โดยระบุว่าเรือบรรทุกสินค้าของอังกฤษลำหนึ่งที่ชักธงบาฮามาสถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธนอกชายฝั่งตะวันตกของเยเมน เรือบรรทุกสินค้ารายดังกล่าวถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ และลูกเรือเผ่นหนีออกจากตัวเรือ บริษัท ระบุในถ้อยแถลง
หน่วยงานทางทะเลของอังกฤษยังเตือนเมื่อวันอาทิตย์ถึงความรุนแรงในช่องแคบบับ อัล-มันดับ ในทะเลแดง และเรียกร้องให้เรือต่างๆ ในพื้นที่ใช้ความระมัดระวังและรายงานกิจกรรมที่น่าสงสัยใดๆ
วิทยุกองทัพอิสราเอลกล่าวว่าเรือลำดังกล่าว ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักในทะเลแดง เป็นของอังกฤษ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอิสราเอล มีการกล่าวอ้างที่คล้ายกันในตอนแรกเกี่ยวกับกาแล็กซีลีดเดอร์ ซึ่งถูกกองกำลังเยเมนยึดไปเมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ก่อนที่จะได้รับการยืนยันว่าเป็นของมหาเศรษฐีชาวอิสราเอลผู้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกองทัพอิสราเอล
ตามรายงานของวิทยุกองทัพบกอิสราเอล เรือที่ได้รับความเสียหายเล็กน้อยในทะเลแดงถูกเช่าให้กับบริษัทที่อิสราเอลเป็นเจ้าของบางส่วน โจนาธาน คอนริคัส โฆษกกองทัพอิสราเอลทวีต “ชาวอิหร่านและผู้รับมอบฉันทะจากฮูตีของพวกเขาก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อโลกเสรี”
ก่อนหน้านี้ บริษัทขนส่ง Zim ของอิสราเอลกล่าวว่าได้เปลี่ยนสายการเดินเรือหลังจากเรือ ๒ ลำถูกโดรนทิ้งระเบิดนอกชายฝั่งเยเมน เรียกว่าเผ่นกระเจิงกันแล้ว
สมรภูมิทางทะเลกำลังคุกรุ่นไปพร้อมๆกับการต่อสู้อย่างดุเดือดแหลมคมระหว่างอิสราเอลและพันธิมตรต่อต้าน ทั้งในฉนวนการซา ดินแดนของอิสราเอลและรอบบ้านอย่างทางเหนือกับฮิซบุลเลาะห์ ทางใต้กับเลบานอน ไม่เว้นในอิรักและซีเรียเพราะอิสราเอลส่งบินรบร่วมกับสหรัฐฯไปก่อกวนสองประเทศนี้ไปด้วย
ความจริงแล้วความเคลื่อนไหวในทะเลเริ่มมาตั้งแต่สหรัฐส่งเรือพิฆาตเข้าสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอ้างซ้อมรบ ไม่นานนักตุรกีของเคลื่อนกองเรือรบมาซ้อมรบกับพันธมิตรอาหรับแถวๆทะเลเกาะไซปรัส ต่อมาจีนก็ได้ส่งกองเรือรบกว่า ๖ ลำพร้อมเรืออื่นๆ เคลื่อนไหวซ้อมรบกับพันธมิตรในตะวันออกกลาง จนถึงวันนี้มีแต่รายงานเข้าสู่พื้นที่ แต่ยังไม่มีรายงานออกจากพิ้นที่หรือไม่ เมื่อไหร่ ทั้งสหรัฐและพวก ตลอดจนจีน ตุรกีและผองเพื่อน
สถานการณ์เช่นนี้บ่งบอกความคุกรุ่น ที่ต่างพากันตั้งหลักเตรียมพร้อมหวั่นเกิดสถานการณ์ขยายวงกว้าง มีการปะทะในระดับประเทศซึ่งประเทศต่างๆนอกเหนือจากอิสราเอลต่างไม่ต้องการให้เกิด แต่พฤิตกรรมทางทหารของอิสราเอลและสหรัฐกับพวกกลับพยายามยั่วยุอย่างแข็งกร้าวต้องการให้ศึกขยายวง ถึงแม้ว่ามหาอำนาจหลายขั้วพยายามใช้กลไกทางการเมืองโลก บีบสหัฐ-อิสราเอลและพวกพ้อง แต่มันอาจไม่ทันความเสียหายที่กำลังเกิดกับชาวปาเลสไตน์ ความรุนแรงในทุกสมรภูมิจึงยกระดับความรุนแรงขึ้นโดยธรรมชาติแล้ว!!
