ปากกล้าขาสั่น!! แม่ทัพIDF ขู่ใครหนุนปาเลสไตน์สมควรโดน นายพลโอดหวั่นฮิซบุลเลาะห์ยึดเหนือ เยนเมนบุกใต้

0

สถานการณ์การศึกในความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ล่าสุดนายทหารของอิสราเอลออกมาโอดครวญว่า อิสราเอลไม่ได้เตรียมการสุ้ศึกระดับภูมิภาคมาก่อน ตอนนี้ก็หวั่นเกรงกองทัพฮิซบุลเลาะห์จะลุยทางภาคเหนือ และเยเมนก็กร้าวหนักกลัวจะถล่มทางใต้ ในขณะที่ในฉนวนกาซา และเวสต์แบงก์ยังปราบกลุ่มต่อต้านไม่สำเร็จ

ในทางตรงกันข้าม รมว.กลาโหมสายเหยี่ยวของอิสราเอลออกมาขู่ออกสื่ออย่างเปิดเผยว่า ใครก็ตามแม้แต่ใส่สูท หากสนับสนุนปาเลสไตน์หรือฮามาสก็สมควรไม่มีชีวิตอยู่ ช่างกล้า คงคิดว่าอิลิทโลกเป็นผู้สนับสนุนใหญ่อยู่เบื้องหลังทำอะไรก็ได้ ศาลโลกก็กริบ องค์การสิทธิมนุษยชนก็แค่วิจารณ์ สหประชาชาติกันเถียงกันอยู่ไม่จบสิ้น จับตาท่าทีสหรัฐฯเอาไงไปต่อหรือพักก่อน

วันที่ ๓๐ พ.ย.๑๒๕๖๖ สำนักข่าวอัลมายาดีน รายงานว่า นายพลพลตรีในกองกำลังสำรองของอิสราเอลเน้นย้ำถึงความอ่อนแอของกองทัพอิสราเอลในแง่ของการต่อต้านครั้งใหญ่ที่กองทัพกำลังเผชิญในแนวรบด้านเหนือและใต้

พล.ต.ยิตซัค บริค นายพลสำรองในกองกำลังยึดครองของอิสราเอล แสดงความวิตกเกี่ยวกับปฏิบัติการของกองทัพในฉนวนกาซาตอนเหนือ ตามรายงานของสื่ออิสราเอล

บริคกล่าวว่า“กลุ่มฮามาสกำลังเคลื่อนย้ายนักโทษออกจากพื้นที่ที่ควรอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพทางตอนเหนือของฉนวนกาซา” 

เขากล่าวว่ากองกำลังยึดครองของอิสราเอล “ยังห่างไกลจากเป้าหมายในฉนวนกาซา” และเน้นย้ำว่ากลุ่มฮามาส “ยังคงมีนักรบหลายหมื่นคน” ในขณะที่ IOF “ต้องการการฟื้นฟูด้านประสิทธิภาพหลังสงครามครั้งนี้”

ในการยอมรับอย่างตรงไปตรงมา บริคระบุว่ากองทัพอิสราเอลขาดความสามารถในการ “จัดการกับหลายแนวรบพร้อมกัน” โดยชี้ให้เห็นว่า “ทุกวันนี้ กองทัพอากาศไม่ชนะสงคราม และกองทัพอากาศอิสราเอลไม่สามารถหยุดขีปนาวุธแม้แต่นัดเดียวได้”

นอกจากนี้ บริคยังดึงความสนใจไปที่จุดยืนของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ โดยกล่าวว่าเขา “ไม่ต้องการเห็นพลเรือนบาดเจ็บล้มตายในฉนวนกาซาตอนใต้” เขาเตือนว่าหากห้ามปรับระดับบ้าน “ทหารอิสราเอลจะเข้ามาโดยไม่มีการสนับสนุนทางอากาศและปืนใหญ่ ส่งผลให้ฝ่ายเราได้รับบาดเจ็บมากขึ้น”

สื่ออิสราเอลรายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า เชลยชาวอิสราเอลที่ได้รับการปล่อยตัวเมื่อคืนนี้ถูกควบคุมตัวไว้ทางตอนเหนือของฉนวนกาซาซึ่งเป็นโรงละครหลักของการบุกรุกภาคพื้นดินของกองทัพยึดครองและจุดเน้นของการทิ้งระเบิดนับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้นเมื่อเกือบหนึ่งเดือนที่แล้ว

เช้าตรู่ของวัน สำนักข่าวอิสราเอลกล่าวว่าเชลยที่กลุ่มต่อต้านได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันเสาร์ถูกย้ายจากเมืองกาซาต่อหน้าชาวเมือง โดยชี้ให้เห็นว่านั่นหมายความว่าพวกเขาถูกควบคุมตัวในบริเวณที่กองทัพอิสราเอลปฏิบัติการอยู่ แต่เล็ดรอดสายตาIDF ไปอย่างน่าวิตก

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ความมั่นคงอาวุโสในกองทัพอิสราเอลแสดงความกังวลเกี่ยวกับพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซาที่กองทัพเข้าไปเปิดแนวรบขัดแย้งชายแดนเลบานอน

“แม้ว่ากองทัพอิสราเอลจะเข้าควบคุมพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา แต่การปรากฏตัวของกลุ่มฮามาสยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินที่ช่วยให้นักรบสามารถอยู่ในพื้นที่เหล่านั้นได้เป็นเวลาหลายเดือน”

สื่ออิสราเอลแสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันในเดอะสตริปว่า “จากมุมมองเชิงปฏิบัติ กองทัพอิสราเอลกำลังสูญเสีย ” 

เขาเสริมว่า “มีปัญหาอย่างต่อเนื่องที่กองกำลังอิสราเอล ในฉนวนกาซาเผชิญอยู่ในระหว่างการหยุดยิง” 

ความท้าทายประการหนึ่งคือการไม่สามารถทำให้กลุ่มต่อต้านปาเลสไตน์อ่อนแอลงได้ แม้จะมีการระดมทิ้งระเบิดครั้งใหญ่ ซึ่งเปิดตัวควบคู่ไปกับการปิดล้อมโดยสมบูรณ์

หลังจากประกาศหยุดยิง สื่ออิสราเอลกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ใครก็ตามที่ไว้ทุกข์ให้กับกลุ่มฮามาสจะต้องดูวันนี้ หลังจากการสู้รบนาน ๔๙ วัน “กลุ่มฮามาสได้พิสูจน์แล้วว่ายังคงแข็งแกร่งและควบคุมฉนวนกาซาได้” 

ที่กังวลมากที่สุดคือกองกำลัง Radwan หน่วยรบพิเศษของฮิซบุลเลาะห์สามารถไปถึงไฮฟาได้ ยิ่งไปกว่านั้น บริคยังแสดงความประหลาดใจที่สงครามไม่ปะทุขึ้นในทันทีระหว่างการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มต่อต้านอิสลามในเลบานอนกับการยึดครองของอิสราเอลทางตอนเหนือกาซาเมื่อเร็ว ๆ นี้

เขากล่าวว่า “เป็นเรื่องปาฏิหาริย์ที่สงครามไม่ปะทุขึ้นและกองทัพรัดวานไม่ได้เข้ามาในวันนั้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันที่ปฏิบัติการมหาอุทกภัยอัล-อักซอเริ่มต้นขึ้น

เขากล่าวว่ากองกำลัง Radwan มีศักยภาพที่จะเข้าสู่เมืองไฮฟา(Haifa) และ ตาบาเรยา(Tabarayya) เนื่องจากไม่มีการป้องกันในแนวรบด้านเหนืออย่างเข็มแข็งมาก่อน เขาย้ำว่า Radwan Force สามารถกำหนดเป้าหมายโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดได้ “เมื่อถึงจุดนั้น อิสราเอลก็คงสูญสลายไปแล้วแน่”

บริคทิ้งท้ายโดยระบุว่า “อิสราเอล” ไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับสงครามภูมิภาคในช่วง๒๐ ปีที่ผ่านมา “เมื่อมีขีปนาวุธหลายพันลูกจากเยเมนและอิหร่านไปถึงที่นั่น ก็จะไม่สามารถหยุดยั้งพวกมันได้”

การออกมาให้สัมภาษณ์แบบนี้ส่งสัญญาณต่อหัวหน้าสายเหยี่ยวที่ประกาศเดินหน้าทำลายล้างอย่างเต็มที่ วันนี้อย่างกร้าวประกาศขู่ประเทศอื่นๆ ผู้นำอื่นด้วย มันบ่งบอกว่า รู้ตัวแล้วในทางยุทธศาสตร์พลาดแล้ว ยิ่งโหดยิ่งถูกต่อต้าน เพราะจนวันนี้สิ่งที่ชาวโลกได้เห็นคือ ชเลยปาเลสไตน์ที่ได้รับการปล่อยตัวส่วนใหญ่คือผู้หญิงและเด็กเยาวชน ศพที่กลาดเกลื่อนอยู่ทั่วกาซาส่วนใหญ่คือผู้หญิงและเด็ก 

แต่แน่นอนเบื้องหลังอิสราเอลเป็นปราการที่แข็งแกร่งของผู้มีอิทธิพลคนชั้นสูงที่คุมทั้งสหรัฐ ยุโรปและอิสราเอล ดังนั้นสงครามใหญ่จะยังคงเดินหน้า เพื่อผลักดันให้เป้าหมายทางภูมิรัฐศาสตร์โลกของมหาอำนาจเดี่ยวแองโกลแซกซอนที่สหรัฐและสหราชอาณาจักรเป็นแกนนำบรรลุเป้า ขณะที่การสู้รบหน้างานจะยังดำเนินต่อไปและจะยกระดับแบบไหน ต้องติดตามไม่กะพริบตาเพราะวันนี้โลกมุสลิมไม่ยอมจำนน!!??