จากที่การสู้รบกำลังดำเนินไปทั้งสมรภูมิปาเลสไตน์กับอิสราเอล ขณะเดียวกันอีกสมรภูมิที่ดุเดือดไม่แพ้กันก็คือ รัสเซียกับยูเครน ที่มีรายงานถึงการส่งยุทโธปกรณ์ทันสมัย อานุภาพรุนแรงไม่ว่าขีปนาวุธ หรือ เรือรบซึ่งมีสหรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
สำหรับเหตุการณ์ที่ปรากฏออกมาเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งมีสถานการณ์ที่เปิดเผยจากเว็บไซต์ TOP WAR โดยมีการเผยแพร่ข้อมูลที่ต่อเนื่องกันว่า
ในสุนทรพจน์ล่าสุดของ รัฐมนตรีกลาโหม เซอร์เกย์ ชอยกู เรียกร้องให้อู่ต่อเรือต่างๆ ส่งเสริมกองเรือ ติดอาวุธ ใหม่สำหรับขีปนาวุธใหม่ที่สามารถโจมตีเรือบรรทุกเครื่องบินและกลุ่มเรือที่ติดอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดย AUG ของอเมริกาเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาอำนาจของสหรัฐฯ และดูเหมือนว่ารัสเซียจะรับทราบแล้ว ซึ่งตามที่ระบุไว้ ขีปนาวุธของรัสเซียจะต้องเอาชนะการป้องกันทางอากาศแบบหลายชั้นระหว่างทางไปยัง AUG เรือบรรทุกเครื่องบินที่ติดตั้งระบบต่อต้านอากาศยานทุกพิสัย (ระยะสั้น กลาง และไกล)
ขีปนาวุธร่อนแบบเปรี้ยงปร้าง เช่น คาลิบ ไม่เป็นภัยคุกคามต่อเรือบรรทุกเครื่องบิน พวกมันถูกตรวจจับและทำลายได้ง่ายก่อนที่พวกมันจะเข้าใกล้ AUG แม้แต่ในกรณีที่มีการโจมตีครั้งใหญ่ก็ตาม
ทั้งนี้ TOP WAR ยังระบุอีกว่า มีเพียงระบบเดียวที่ออกแบบมาเพื่อจมเรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกัน ที่ติดตั้งบนเรือของกองทัพเรือรัสเซีย นั่นคือขีปนาวุธ P-700 Granit ซึ่งเป็นขีปนาวุธต่อต้านเรือขนาด 7 ตันพร้อมหัวรบ 750 กิโลกรัม ความจุ 500 kt (ซึ่งสามารถติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ได้) สามารถเข้าถึงความเร็วได้ถึง 1,6 มัคที่ระดับความสูงต่ำ และมากกว่า 2,5 ที่ระดับความสูง ระยะสูงสุดคือ 625 กิโลเมตร
“การโจมตีเพียงครั้งเดียวจาก Granit แม้จะใช้หัวรบแบบธรรมดา แต่ก็มีแนวโน้มที่จะทำลายเรือบรรทุกเครื่องบินได้”
ขีปนาวุธต่อต้านเรือผิวน้ำ P-800 Onyx ของรัสเซียมีความเร็วเหนือเสียง และความคล่องแคล่วในการเอาชนะการป้องกัน AUG ถูกติดตั้งบนเรือและเรือดำน้ำหลายลำ แต่หัวรบ 300 กิโลกรัมเล็กกว่าหัวรบ Granit 750 กิโลกรัม
สิ่งเดียวที่เทียบเท่ากับ “Granit” ซึ่งเป็นวิธีการหลักในการทำลาย AUG นั้นมีเพียงขีปนาวุธล่องเรือความเร็วเหนือเสียง 3M22 Zircon ซึ่งสามารถเข้าถึงความเร็วสูงสุด 8 มัคและโจมตีเป้าหมายได้ในระยะสูงสุด 500 -1,000 กิโลเมตร
เพทายที่มีความเร็วเหนือเสียงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสกัดกั้นโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศของกลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบิน ซึ่งหัวรบของมันซึ่งมีน้ำหนัก 300-400 กิโลกรัม เนื่องจากความเร็วในการบินสูง จะสร้างความเสียหายได้พอๆ กับ Granit เมื่อเผชิญกับภัยคุกคามดังกล่าว เรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯ ทุกลำก็ตกอยู่ในความเสี่ยง
อย่างไรก็ตามในวันเดียวกันนี้ TOP WAR ยังเปิดเผยถึงเรือของยูเครนที่ถูกรัสเซียกำจัดอีกว่า ช่อง TG Two Majors รายงานถึงเรือไร้คนขับลำหนึ่งของยูเครนที่โจมตีเรือรัสเซียตกไปอยู่ในมือของกองทัพรัสเซีย
โดรนของกองทัพเรือยูเครนถูกค้นพบบนชายฝั่งตะวันตกของแหลมไครเมีย ในพื้นที่โดนุซลาฟ ใกล้เมืองเยฟปาโตเรีย เรือไร้คนขับลำนี้อยู่ในสภาพดี เห็นได้ชัดว่าถูกซัดขึ้นฝั่งระหว่างการโจมตีเรือรบรัสเซียในเวลากลางคืน อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่สำคัญอีกต่อไป สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรือไม่มีความเสียหายที่มองเห็นได้ หน้าเว็บสาธารณะของยูเครนยืนยันว่าเรือลำนี้ คล้ายกัน กับโดรนยูเครน MAGURA V5 (Maritime Autonomous Guard Unmanned Robotic Apparatus V5)
การต่อต้านการโจมตีของโดรน กองทัพเรือยูเครน เกิดขึ้นในคืนวันที่ 21-22 พฤศจิกายน 2023 นอกชายฝั่งตะวันตกของแหลมไครเมียในภูมิภาค Evpatoria เรือไร้คนขับสี่ลำของกองทัพเรือยูเครนถูกค้นพบเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. นอกชายฝั่งตรงข้ามทะเลสาบโดนุซลาฟ โดรนสามลำถูกทำลายจากอาวุธบนเรือของกองเรือทะเลดำและลำที่สี่ถูกพัดขึ้นฝั่งโดยไม่ทราบสาเหตุ
ตามข้อมูลจากโอเพ่นซอร์ส MAGURA V5 มีความยาว 5.5 เมตร กว้าง 1.5 เมตร และสามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้สูงสุด 320 กิโลกรัม ความเร็วล่องเรือเกือบ 40 กม./ชม. และความเร็วสูงสุดมากกว่า 75 กม./ชม. ระยะเกิน 800 กิโลเมตร