การหยุดยิงที่ประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ถือเป็นพรสำหรับชาวปาเลสไตน์และชาวอิสราเอล โอกาสสำหรับการแลกเปลี่ยนนักโทษ การแบ่งปันความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ และเพื่อให้อารมณ์ความรู้สึกของทั้งสองฝ่ายของความขัดแย้งได้ผ่อนคลายลง
วันที่ ๒๔ พ.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกรายงานว่า การหยุดยิงซึ่งกาตาร์และอิยิปต์จัดเจรจาระหว่างอิสราเอลและฮามาสนั้นได้รับการตกลงร่วมกันระหว่างทั้งสองฝ่าย สก๊อต ริตเตอร์ อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองนาวิกโยธินสหรัฐฯกล่าวว่า “อย่าให้ใครถูกหลอกให้คิดว่านี่เป็นอะไรที่น้อยกว่าชัยชนะของฮามาส อิสราเอลมีจุดยืนที่ก้าวร้าวมาก เมื่อพิจารณาจากวัตถุประสงค์ที่ประกาศไว้ในการทำลายกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก อิสราเอลจะไม่ตกลงหยุดยิงไม่ว่าภายใต้เงื่อนไขใดๆ”
ในทางกลับกัน ฮามาสได้ตั้งเป้าหมายหลักประการหนึ่งในการเริ่มการสู้รบรอบปัจจุบันกับอิสราเอล เพื่อปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงและเด็ก ที่ถูกอิสราเอลควบคุมตัว เมื่อมองในแง่นี้ การหยุดยิงถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของกลุ่มฮามาส และความพ่ายแพ้อย่างน่าอัปยศอดสูของอิสราเอล
สาเหตุหนึ่งที่อิสราเอลปฏิเสธการหยุดยิงมาโดยตลอดก็คือ มั่นใจว่าปฏิบัติการรุกที่อิสราเอลได้เปิดฉากขึ้นในฉนวนกาซาตอนเหนือจะทำให้กลุ่มฮามาสความสามารถในฐานะภัยคุกคามทางทหาร และการหยุดยิงใดๆ ก็ตาม โดยไม่คำนึงถึงเหตุผลด้านมนุษยธรรม จะซื้อเวลาให้กับ การเอาชนะศัตรูของฮามาสเพื่อพักผ่อน ปรับโครงสร้าง และจัดกลุ่มใหม่ การที่อิสราเอลลงนามหยุดยิงถือเป็นสัญญาณที่แน่ชัดว่าทุกอย่างไม่เป็นผลดีนักจากการที่อิสราเอลโจมตีกลุ่มฮามาส และส่งผลย้อนกลับ
กลุ่มฮามาสได้เริ่มแผนการวางแผนหลายปี ความใส่ใจอย่างพิถีพิถันในรายละเอียดที่เห็นได้ชัดเจนในการปฏิบัติการของกลุ่มฮามาสตอกย้ำความจริงที่ว่ากลุ่มฮามาสกำลังศึกษาหน่วยข่าวกรองของอิสราเอลและกองกำลังทหารที่เตรียมพร้อมรับมือกับปฏิบัติการดังกล่าว โดยเผยให้เห็นจุดอ่อนที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์ในเวลาต่อมา ปฏิบัติการของฮามาสเป็นมากกว่าการวางแผนและการปฏิบัติการทางยุทธวิธีและการปฏิบัติการที่ดี—มันเป็นผลงานชิ้นเอกในการวางแนวความคิดเชิงกลยุทธ์เช่นกัน
สาเหตุหลักประการหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังความพ่ายแพ้ของอิสราเอลในวันที่ ๗ ตุลาคม คือความจริงที่ว่ารัฐบาลอิสราเอลเชื่อมั่นว่ากลุ่มฮามาสจะไม่โจมตีไม่ว่านักวิเคราะห์ข่าวกรองที่ถูกกล่าวหาว่าเฝ้าดูกิจกรรมของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาจะพูดอะไรก็ตาม ความล้มเหลวในจินตนาการนี้เกิดขึ้นจากการที่กลุ่มฮามาสระบุเป้าหมายทางการเมืองและวัตถุประสงค์ของอิสราเอลอย่างชัดเจนว่าต้องการขับไล่ชาวปาเลสไตน์ทั้งหมด
การทำให้กลุ่มฮามาสเป็นองค์กรต่อต้านเป็นโมฆะโดยการดำเนินนโยบายที่สร้างขึ้นจาก “การซื้อ” กลุ่มฮามาสผ่านโครงการขยายใบอนุญาตทำงานที่ออกโดยอิสราเอลสำหรับชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ใน ฉนวนกาซา ฮามาสยอมเล่นเกมนี้โดยเข้าร่วมโครงการใบอนุญาตทำงานเพื่อหลอกให้ผู้นำอิสราเอลเกิดความนิ่งเฉย ปล่อยให้กลุ่มฮามาสเตรียมการโจมตีโดยไม่เอะใจ
ริตเตอร์มองว่าการโจมตีเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคมโดยกลุ่มฮามาสไม่ใช่ปฏิบัติการเดี่ยวๆ แต่เป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ที่มีวัตถุประสงค์หลัก ๓ ประการ นั่นคือ
๑.การนำประเด็นของรัฐปาเลสไตน์กลับมาเป็นหัวเรื่องในการอภิปรายระหว่างประเทศ ๒.เพื่อปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์หลายพันคน อิสราเอลยึดไว้ ๓.เพื่อบีบบังคับอิสราเอลให้ยุติและเลิกคุมคาม, ดูหมิ่นหรือยึดมัสยิดอัลอักซอ ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันดับสามของศาสนาอิสลาม
การโจมตีเมื่อวันที่ ๗ ตุลาคมด้วยตัวมันเองไม่สามารถบรรลุผลเหล่านี้ได้ แต่การโจมตีในวันที่ ๗ ตุลาคม ได้รับการออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการตอบสนองของอิสราเอล ซึ่งจะสร้างเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ของฮามาสในการบรรลุผล
การโจมตี ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำให้อิสราเอลอับอายจนถึงขั้นไร้เหตุผล เพื่อให้แน่ใจว่าการตอบสนองของอิสราเอลจะถูกควบคุมโดยความต้องการทางอารมณ์ในการแก้แค้น ตรงข้ามกับการตอบสนองที่มีเหตุผลของฮามาส
การจับชาวอิสราเอลหลายร้อยคนเป็นตัวประกัน ก่อนที่จะถอนตัวไปยังที่ซ่อนใต้ดินใต้ฉนวนกาซา ฮามาสได้ใช้เหยื่อล่อ กับดักสำหรับอิสราเอลซึ่งรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู พุ่งเข้าไปอย่างคาดเดาไม่ได้
กลุ่มฮามาสกำลังทำมากกว่าการเอาตัวรอดแต่คือชัยชนะ หลังจากต่อสู้กับกองกำลังป้องกันอิสราเอลจนIDFต้องหยุดนิ่งในสนามรบ ฮามาสได้เห็นวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ทุกประการในความขัดแย้งนี้บรรลุผลสำเร็จ โลกกำลังแสดงความชัดเจนถึงความจำเป็นที่แท้จริงของการแก้ปัญหาแบบสองรัฐ ซึ่งเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นสำหรับสันติภาพที่ยั่งยืนในภูมิภาค ชาวปาเลสไตน์ที่อิสราเอลจับเป็นเชลยกำลังถูกแลกกับชาวอิสราเอลที่ถูกจับเป็นตัวประกัน และโลกอิสลามก็รวมตัวกันประณามการดูหมิ่นมัสยิดอัลอักซอของอิสราเอล
นอกจากนี้กลุ่มฮามาสยังกลายเป็นกระบอกเสียงและอำนาจที่เกี่ยวข้องมากที่สุดในการปกป้องผลประโยชน์ของชาวปาเลสไตน์ไปแล้ว!!
